บก.ขยายวงเงินทดรองราชการรับมือภัยแล้ง

ศุกร์ ๑๑ มีนาคม ๒๐๑๖ ๑๖:๕๔
กรมบัญชีกลางขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) เพิ่มเติม จังหวัดละ 30 ล้านบาท รวมเป็นจังหวัดละ 50 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล

นางสาวอรนุช ไวนุสิทธิ์ รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลางเปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) เพิ่มเติม จังหวัดละ 30 ล้านบาท ซึ่งจากเดิมกำหนดให้จังหวัดละ 20 ล้านบาท รวมเป็นจังหวัดละ 50 ล้านบาท เพื่อใช้ให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติที่ได้รับผลกระทบต่อชีวิต ทรัพย์สิน และความเป็นอยู่ ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยใช้จ่ายจากเงินทดรองราชการจะต้องมีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด หรือ ก.ช.ภ.จ. และเมื่อ ก.ช.ภ.จ. สำรวจความเสียหายในพื้นที่ที่รับผิดชอบเรียบร้อยแล้ว จะเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาอนุมัติค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับความเดือดร้อน และเมื่อได้ช่วยเหลือแล้ว จังหวัดต้องส่งเอกสารต่าง ๆ ให้กรมบัญชีกลาง เพื่อขอเบิกเงินงบประมาณชดใช้เงินทดรองราชการ ซึ่งวงเงินเดิม 20 ล้านบาทอาจใช้จ่ายหมุนเวียนไม่เพียงพอ

โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวต่อว่า การขยายวงเงินทดรองราชการ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในครั้งนี้ขยายให้ทุกจังหวัด ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้จังหวัดมีความคล่องตัวในการใช้จ่ายเงิน สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึง และบรรเทาความเดือดร้อนด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการดำรงชีพ การบรรเทาสาธารณภัย การแพทย์และการสาธารณสุข และการปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่น ค่าจัดซื้อหรือจัดหาน้ำสำหรับบริโภคหรือใช้สอยในที่อยู่อาศัย จัดหาภาชนะรองรับน้ำ และค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะเพื่อใช้ในการนำรถบรรทุกน้ำออกแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง เป็นต้น

"การขยายวงเงินทดรองราชการเพิ่มอีก 30 ล้านบาท มีเป้าหมายให้ทุกจังหวัดให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยแล้งได้อย่างรวดเร็ว คล่องตัว และมีเงินเพียงพอกับการใช้จ่ายในช่วงเวลาวิกฤต ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศได้อย่างทันท่วงที รวมถึงเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการบูรณาการการป้องกันผลกระทบในวงกว้าง" นางสาวอรนุช กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ