นายวิบูลย์ แสงวิทยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิค แอนด์ ฮุคลันด์ จำกัด (มหาชน) หรือ WIIK เปิดเผยว่า การขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวนทั้งสิ้น 75 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20% ของหุ้นทั้งหมด เสนอขายหุ้นละ 3 บาทรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 225 ล้านบาท โดยจัดสรรให้กับนักลงทุน 2 คน คือนางมนทิรา ผดุงรัตน์ จำนวน 30 ล้านหุ้น และนายจิรายุ อัสสานุวงศ์ จำนวน 45 ล้านหุ้น ทั้งนี้ราคาเสนอขายหุ้นดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นราคาต่ำตามเกณฑ์ราคาของสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และนักลงทุนทั้ง 2 รายดังกล่าวได้ชำระเงินค่าหุ้นให้กับบริษัทครบ 225 ล้านบาทแล้ว
ในปี 2559 บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 2558 โดย ณ วันสิ้นปี 2558 บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) จำนวน 7,327.95 ตัน ซึ่งน่าจะรับรู้รายได้ภายในปี 2559 ไม่น้อยกว่า 640 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% ของยอดขายทั้งหมดของปี 2558 และในปี 2559 WIIK ยังได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานผลิตท่อประปา งานบริหารจัดการน้ำซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ รวมถึงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งในประเทศ และการขยายตัวของสาธารณูปโภคในประเทศเพื่อนบ้าน บริษัทกำหนดเป้าหมายการเพิ่มกำลังการผลิตเฉลี่ยในปี 2559 จาก 22,800 ตันต่อปี เป็น 27,500 ตันต่อปี โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรเดิมเพื่อการผลิตท่อผนังเบาสองชั้น (Weholite) สำหรับงานท่อน้ำทิ้งลงทะเล ท่อระบายน้ำในโรงไฟฟ้า และอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขนาดใหญ่ ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้ WIIK สามารถผลิตท่อ Weholite ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3,500 มม. ทำให้บริษัทสามารถผลิตท่อพีอีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค เพิ่มศักยภาพในการรับงานท่อ Intake และOutfall สำหรับโรงไฟฟ้าและ Petrochemical Chemical Complex ในอาเซียน และทำให้เพิ่มกำลังการผลิตท่อ Weholite ได้ 800 ตันต่อปี
โดยจะทำการติดตั้งพร้อมใช้งานในเดือนกรกฎาคม 2559 อีกทั้งยังมีการซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อรองรับการผลิตท่อ HDPE (W-HQ Pipe) ขนาดกลางและขนาดเล็ก สำหรับงานท่อส่งน้ำ ท่อน้ำดื่ม ท่อระบายน้ำ ในโครงการขนาดเล็ก ซึ่งมีความต้องการในตลาดค่อนข้างมากในปัจจุบัน โดยจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตประมาณ 2,500 ตันต่อปี คาดว่าจะติดตั้งพร้อมใช้งานได้ในเดือนมิถุนายน 2559
นอกจากนี้ WIIK ยังมีการประสานความร่วมมือกับตัวแทนค้าและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิควิศวกรรมในต่างประเทศ เพื่อร่วมกันขยายตลาดเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมถึงยังมีแผนการลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัทให้เติบโตขึ้นอย่างมั่นคงในอนาคต โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการลงทุนและคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2559
นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า จากผลประกอบการของบริษัทที่เติบโตและพลิกกลับมามีกำไรในปี 2558 ทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ในอัตราหุ้นละ 0.11 บาท โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 24 มีนาคม2559 และจะจ่ายเงินปันผลดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 18 พฤษภาคม 2559 หลังจากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว