ในการพิจารณาข้อมูลสถิติของธุรกิจประกันชีวิต สมาคมจะพิจารณาแยกเป็น 2 กรณี คือ ประการแรกจะพิจารณาถึงขนาดของบริษัท และประการที่สอง จะพิจารณาถึงการขยายงานของบริษัท จากสถิติเบี้ยประกันชีวิตรับ เดือนมกราคมของปี 2559 ซึ่งสมาคมประกันชีวิตไทยได้รวบรวมจากบริษัทประกันชีวิตทุกบริษัท มีดังนี้
1.เบี้ยประกันชีวิตรับรวม เดือนมกราคม 2559 มีทั้งสิ้น 44,722.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 7.69 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรวมสูงสุด หรือมีขนาดใหญ่สูงสุด 7 อันดับแรก คือ
อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 9,067.25 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 20.27
อันดับที่ 2 บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 7,881.14 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 17.62
อันดับที่ 3 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต จำนวน 5,881.16 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 13.15
อันดับที่ 4 บมจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 5,101.13 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 11.41
อันดับที่ 5 บมจ.กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต จำนวน 3,822.89 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 8.55
อันดับที่ 6 บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำนวน 3,602.26 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 8.05
อันดับที่ 7 บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำนวน 2,756.35 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 6.16
รวม 7 อันดับแรก ครองสัดส่วนการตลาดร้อยละ 85.21 และอีก 15 บริษัทที่เหลือครองสัดส่วนการตลาด ร้อยละ 14.79
2. เบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ เดือนมกราคม 2559 มีทั้งสิ้น 11,986.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 9.65 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่สูงสุด หรือมีการขยายงานสูงสุด 7 อันดับแรก คือ
อันดับที่ 1 บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 2,692.55 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 22.46
อันดับที่ 2 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 1,874.16 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 15.64
อันดับที่ 3 บมจ.กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต จำนวน 1,372.56 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 11.45
อันดับที่ 4 บมจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 1,281.33 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 10.69
อันดับที่ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำนวน 881.17 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 7.35
อันดับที่ 6 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต จำนวน 846.58 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 7.06
อันดับที่ 7 บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำนวน 761.53 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 6.35
ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไปที่มีจำนวน 32,736.18 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.00 โดยมีอัตราความคงอยู่ร้อยละ 85 ถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี แสดงถึงผู้เอาประกันชีวิตให้ความสำคัญของการประกันชีวิต จากงานแถลงข่าว "ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตไทยปี 2558 และแนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตไทยปี 2559" เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 ณ ห้องประชุมชั้น 7 สมาคมประกันชีวิตไทย รายงานเบี้ยประกันชีวิต ณ สิ้นปี 2558 รวมทั้งสิ้น 537,510 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตถึงร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และในปี 2559 สมาคมคาดว่าธุรกิจประกันชีวิตจะยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยอัตราการเติบโตประมาณร้อยละ 9 เบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 585,700 ล้านบาท โดยมีปัจจัยปัจจัยสนับสนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่มีแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายของภาครัฐ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเร่งด่วน ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อประกันชีวิตมากขึ้น ประกอบกับการแข่งขันการให้บริการที่ดีแก่ประชาชนของบริษัทประกันชีวิต การออกผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนทุกระดับชั้น การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และการให้ความสำคัญในการส่งเสริมธุรกิจประกันชีวิตของหน่วยงานของรัฐ รวมไปถึงสิทธิผลประโยชน์ทางภาษีที่ผู้เอาประกันชีวิตจะได้รับ ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยบวกต่อการดำเนินธุรกิจประกันชีวิตในปี 2559
ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายข้อมูลเพื่อการพัฒนาธุรกิจ สมาคมประกันชีวิตไทย โทรศัพท์ 0-2679-8080 ต่อ 532 หรือ Download ข้อมูลสถิติได้จาก www.tlaa.org/2012/statistics.php