เศรษฐกิจไทยสโลว์ไลฟ์ เศรษฐกิจโลกสโลว์เวอร์

ศุกร์ ๑๘ มีนาคม ๒๐๑๖ ๑๔:๕๘
นายนริศ สถาผลเดชา ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics และดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ รองผู้อำนวยการ เปิดเผยมุมมองการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกปี 2559 ว่าจะเป็นในลักษณะ "เศรษฐกิจไทยสโลว์ไลฟ์ เศรษฐกิจโลกสโลว์เวอร์" กล่าวคือ โมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังคงมีแรงส่งจากเครื่องยนต์ด้านต่างๆที่สามารถทำงานสอดคล้องกันมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่ปรับสู่ระดับปกติที่จะสามารถรองรับเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลให้เศรษฐกิจไทย ปี 2559 มีแนวโน้มขยายตัวในระดับทรงตัวที่ร้อยละ 2.8

ในด้านเศรษฐกิจโลก ศูนย์วิเคราะห์ฯ มองเศรษฐกิจหลักยังคงฟื้นตัวในระดับที่แตกต่างกัน และนำไปสู่นโยบายการเงินโลกที่สวนทางกันก่อให้เกิดความผันผวนให้ตลาดการเงิน โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆจากการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ยูโรโซนและญี่ปุ่นยังเผชิญกับพายุเศรษฐกิจ ทำให้การเติบโตอยู่ในระดับทรงตัว และต้องจับตาประเด็นด้านเสถียรภาพของสหภาพยุโรปจากกรณีการถอนตัวของอังกฤษหรือ Brexit ส่วนเศรษฐกิจจีนยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าร้อยละ 7 แต่ยังได้แรงหนุนจากการบริโภคและการเติบโตของภาคบริการเข้ามาทดแทนภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอตัว ส่วนเศรษฐกิจอาเซียนในภาพรวมยังคงมีแนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV

สำหรับทิศทางเศรษฐกิจไทย เครี่องชี้เศรษฐกิจแทบทุกด้านมีสัญญาณแผ่วลงในช่วงต้นปี โดยเฉพาะการส่งออกที่หดตัวแรง และมีแนวโน้มที่จะแผ่วต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี ก่อนที่มีแนวโน้มปรับดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังตามทิศทางราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นและเศรษฐกิจคู้ค่าหลักฟื้นตัวมากขึ้น ทำให้ภาพรวมส่งออกทั้งปียังหดตัวที่ร้อยละ 4.5 อย่างไรก็ดี ยังมีสินค้าอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตได้ อาทิ หมวดยานยนต์และชิ้นส่วน ในตลาดออสเตรเลียและตลาด CLMV หมวดเครื่องจักรอุตสาหกรรมในตลาดสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และเครื่องจักรเกษตรกรรม ในตลาด CLMV

ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ แกนหลักในการขับเคลื่อนยังมาจากนโยบายภาครัฐ ทั้งมาตรการกระตุ้นระยะสั้นที่ส่งผลดีต่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจอย่างน้อยในช่วงครึ่งปีแรก ด้านมาตรการการลงทุนระยะยาว ประกอบด้วย การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 1.8 ล้านล้านบาท ระยะเวลา 8 ปีที่จะเร่งการทำสัญญา 20 โครงการให้แล้วเสร็จปีนี้ อาทิ โครงการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ ก่อให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบในช่วงครึ่งหลังของปี ตลอดจนมาตรการระยะยาวในด้านการส่งเสริมการลงทุนซูเปอร์คลัสเตอร์ในพื้นที่ 9 จังหวัด การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ส่งผลดีต่อภาคธุรกิจและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาค

นอกจากการขับเคลื่อนของนโยบายภาครัฐแล้ว การท่องเที่ยวยังมีแนวโน้มสดใสต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 32.5 ล้านคน หนุนโดยตลาดนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากยังได้รับแรงกดดันจากภาวะหนี้ครัวเรือน ราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงทรงตัวในระดับต่ำและปัญหาภัยแล้ง ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ภาคเกษตร ทั้งนี้ จากเครื่องยนต์แต่ละด้านของเศรษฐกิจในปี 2559 ที่เริ่มทำงานประสานกันได้มากขึ้น แต่ยังไม่มีแรงส่งมากนัก ก็คาดว่าส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปี 2559 มีแนวโน้มขยายตัวได้ที่ร้อยละ 2.8

ในด้านตลาดการเงิน ศูนย์วิเคราะห์ฯ คาดว่า จากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ สอดคล้องกับภาพเศรษฐกิจไทยที่ยังค่อยฟื้นตัวอย่างช้าๆ กอปรกับแนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลัง ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีแนวโน้มอยู่ในทิศทางทรงตัว โดยอยู่ที่ร้อยละ 1.5 ณ สิ้นปี 2559 อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะถูกปรับลง หากความเปราะบางของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น

สำหรับทิศทางค่าเงินบาท ศูนย์วิเคราะห์ฯ มองว่าในระยะสั้น ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าเนื่องจากจังหวะการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯยังไม่ชัดเจน ทำให้เงินทุนยังไหลเข้ามาภูมิภาคเอเชียต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลังค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ตามการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯที่คาดว่าจะปรับขึ้นอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ ทำให้ภาพรวมค่าเงินบาททั้งปี 2559 เคลื่อนไหวในช่วง 34.5-35.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

จากทิศทางการฟื้นตัวเศรษฐกิจแบบสโลว์ไลฟ์ ส่งผลให้ภาพรวมของภาคธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มไม่สดใสมากนัก โดย สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 4.1 ซึ่งเป็นผลของการชะลอลงของสินเชื่ออุปโภคบริโภค ขณะที่สินเชื่อธุรกิจยังคงเติบโตได้ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับนโยบายภาครัฐ อาทิ สาธารณูปโภค ก่อสร้าง รวมถึงภาคบริการและโรงแรมที่เติบโตตามแนวโน้มการเติบโตของการท่องเที่ยว สำหรับด้านเงินฝาก มีแนวโน้มเติบโตที่ร้อยละ 3.7 ตามการขยายตัวของสินเชื่อ และการปรับลดวงเงินคุ้มครองของเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาทในเดือนสิงหาคม ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องสร้างฐานเงินฝากเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ภายใต้ภาวะการแข่งขันเงินฝากที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะธนาคารขนาดกลาง ด้วยอัตราการเติบโตของสินเชื่อที่สูงกว่าเงินฝากส่งผลให้สภาพคล่องของธนาคารปรับตัวลดลงเล็กน้อย

นอกจากนั้น คุณภาพสินเชื่อที่คาดว่าจะด้อยลง โดยสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (%NPL ratio) มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.55 มาที่ร้อยละ 2.63 สาเหตุหลักมาจากกลุ่มสินเชื่อและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคที่กำลังซื้อยังไม่ฟื้น โดยเฉพาะในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป¾

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO