นายชุมพล โชคพงษ์อุดมชัย รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ 4) รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ.เปิดเผยว่า จากรายงานสถานการณ์ภัยแล้งของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ได้ประกาศให้ทั้ง 10 อำเภอของจังหวัดจันทบุรีเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ง ได้แก่ อ.มะขาม อ.โป่งน้ำร้อนอ.สอยดาว อ.แก่งหางแมว อ.ขลุง อ.นายายอาม อ.เมือง อ.เขาคิชฌกูฏ อ.ท่าใหม่ และ อ.แหลมสิงห์ ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่มีความวิตกกังวลถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการผลิตน้ำประปา ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสถานการณ์ล่าสุด พบว่า แม่น้ำจันทบุรี ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบหลักของสถานีผลิตน้ำปากแซง มีปริมาณน้ำอยู่ในระดับที่สามารถสูบได้ตามปกติ แต่ทางด้านคลองปะตง และน้ำตกอ่างหงส์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบหลักของสถานีผลิตน้ำสอยดาวและสถานีผลิตน้ำพลิ้ว – แหลมสิงห์ นั้น มีปริมาณลดลงจนเกือบแห้งขอด แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจาก กปภ.สาขาจันทบุรี ได้มีการเตรียมการรับมือกับภัยแล้งไว้แล้วอย่างรอบด้านด้วยมาตรการต่าง ๆ เช่น การขุดบ่อบาดาลเพิ่มเติมจำนวน 3 บ่อบาดาลบริเวณสถานีผลิตน้ำสอยดาว และอีก 2 บ่อ บริเวณสถานีผลิตน้ำพลิ้ว – แหลมสิงห์เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำดิบเสริมในการผลิตน้ำประปา การปรับลดแรงดันในบางพื้นที่ในช่วงเวลากลางคืน และการรับน้ำประปาจากสถานีผลิตน้ำใกล้เคียงเพื่อส่งจ่ายให้กับประชาชน เป็นต้น ดังนั้น จากมาตรการต่าง ๆ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจได้ว่าตลอดฤดูแล้งนี้ จะมีน้ำประปาสำหรับการอุปโภคบริโภคอย่างไม่ขาดแคลนแน่นอน
อย่างไรก็ตาม กปภ. ต้องขอความร่วมมือให้ลูกค้าใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่าเพื่อเป็นการรักษาปริมาณน้ำดิบให้เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาตลอดช่วงฤดูแล้งด้วย ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนในเรื่องความขาดแคลนน้ำประปาเพื่อใช้ในการอุปโภคและบริโภค หรือพบท่อแตกรั่วสามารถแจ้งไปได้ที่ กปภ. 234 สาขาใกล้บ้าน หรือ PWA Call Center 1662