ครั้งแรกของประเทศไทย กับการเผยโฉมรถยนต์ระดับไฮเอนด์กับ เจเนซิส แนะนำตัวแทนผลิตภัณฑ์คนใหม่ของรถยนต์ เอช-วัน และเพลงพิเศษ แต่งขึ้นภายใต้แนวคิด "For All Lives"
บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดตัว ฮุนได เอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์รุ่นใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ และครั้งแรกของประเทศไทย กับการเผยโฉมรถยนต์ระดับไฮเอนด์กับ เจเนซิส รถยนต์ระดับหรู และทรงพลัง ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 สร้างความหรูหราทันสมัย ตอบความต้องการแก่ลูกค้าทุกระดับ
ภายใต้แนวคิด "ยานยนต์ไร้ขีดจำกัด" หรือ "No Boundaries Mobility" ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 ฮุนได ได้นำทัพรถยนต์ เข้าร่วมจัดแสดงในงาน ได้แก่ รถยนต์อเนกประสงค์ เอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์, รถสปอร์ตซีดาน เอลันตร้า, รถเอสยูวี ทูซอน และรถสปอร์ตแฮ็ทช์แบ็คสามประตู เวลอสเตอร์
"ถึงแม้ว่าในปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยยังอยู่ในสภาวะซบเซา แต่ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ก็ยังสามารถฝ่าฟันให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้อีก 4 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ เราหวังว่า ยอดขายของเรา จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากแผนการดำเนินงานที่เราได้เตรียมแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ในปีนี้อีก 3 รุ่น รวมถึงการขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย และการสื่อสารทางการตลาด" มร.ฮิเดกิ ยานากิซาวา ประธาน บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าว
"แนวคิดความนำสมัยและมีระดับหรือ Modern & Premium เป็นแนวคิดฮุนไดทั่วโลกใช้ในการสื่อสารของภาพลักษณ์ของแบรนด์ และเช่นกันในบูธของเราและรถยนต์ที่นำมาจัดแสดงในงาน จึงได้สะท้อนภาพลักษณ์ของความเป็น Modern & Premium ได้เป็นอย่างดี จากทั้งเทคโนโลยี และการออกแบบ" มร.ฮิเดกิ ยานากิซาวา กล่าวเสริม
รถยนต์ฮุนได เอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ถ่ายทอดความพรีเมียม มอบความหรูหรา และอรรถประโยชน์ของการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งาน ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ได้รับการออกแบบและตกแต่งใหม่ รวมถึงการออกแบบภายใน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพิ่มเติม ทั้งหมดนี้ ทำให้รถยนต์ฮุนได เอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ยังคงเป็นผู้นำในรถระดับเดียวกัน
รถยนต์ฮุนได เอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ได้รับการออกแบบและเพิ่มเติมอุปกรณ์เพื่อความหรูหราและทันสมัย ได้แก่ กระจังหน้าใหม่, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light), ไฟส่องพื้นใต้กระจกมองข้าง รวมถึงล้ออัลลอยลายใหม่ เบาะนั่งโดยสารและพนักพิงศีรษะได้รับการออกแบบใหม่ ในรุ่นเอช-วัน และออกแบบที่วางเท้าใหม่ ในรุ่นแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ เพื่อความสะดวกสบายขณะโดยสาร รวมถึงจอ LCD ความละเอียดสูงขนาด 13.3 นิ้ว พร้อมระบบ HDMI เพื่อเติมเต็มความบันเทิงแก่ผู้โดยสารขณะเดินทาง เสมือนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้าน
เทคโนโลยีอื่นๆที่ได้รับการติดตั้ง เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดในการใช้งาน ได้แก่ ประตูเลื่อนไฟฟ้าอัตโนมัติทั้ง 2 บาน สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ช่วยให้การเข้าและออกจากตัวรถ สะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงระบบ Smart View System ที่จะแสดงภาพขณะถอยหลังแบบ 360 องศา ผ่านหน้าจอความละเอียดสูงบนคอนโซลกลาง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยนับเป็นครั้งแรกในรถระดับเดียวกัน ที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว
"เราเชื่อมั่นว่า ผู้บริโภค จะให้การตอบรับผลิตภัณฑ์ใหม่ของเราเป็นอย่างดี และหวังว่า ฮุนได จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดนี้ได้"
"นอกจากนี้ เราได้เชิญนักแต่งเพลงชื่อดัง "บอย โกสิยพงษ์" มาร่วมถ่ายทอดเอกลักษณ์ของรถยนต์ฮุนได โดยได้มีการแต่งเพลงพิเศษขึ้นใหม่ "เคียงกัน" เพื่อถ่ายทอดชีวิตที่ไม่เหลืออะไรหากไร้ครอบครัวที่อยู่เคียงกัน และขับร้องโดยนักร้องชื่อดัง "ตู่ ภพธร" เพื่อสะท้อนความเป็นรถยนต์ เอช-วัน รถยนต์สำหรับครอบครัวอย่างแท้จริง" มร. ฮิเดกิ ยานากิซาวา กล่าวเสริม
มินิคอนเสิร์ตของ ตู่ ภพธร จะจัดขึ้นในวันที่ 26 มีนาคม 2559 ที่บูธฮุนได ณ งาน บางกอกอินเตอร์เนชัน แนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 และสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ฮุนไดภายในงาน จะได้รับซีดีเพลง "เคียงกัน" ซึ่งถูกผลิตขึ้นโดยมีจำนวนจำกัด
มร.ฮิเดกิ ยานากิซาวา กล่าวต่อว่า "ในปีนี้ เป็นปีที่เราได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเป็นปีที่ 9 ก่อนหน้านี้ เราได้นำเสนอการสื่อสารภายใต้แคมเปญ "Confidence" โดยเราได้นำเสนอถึงพันธสัญญาที่เรามีต่อผู้บริโภคชาวไทย ในการดำเนินธุรกิจ และเราจะยังยืนหยัดความเป็นผู้นำในตลาดรถอเนกประสงค์ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างแท้จริง"
"เพื่อยืนยันพันธสัญญาดังกล่าว ในงานนี้ เราจึงได้นำรถยนต์ระดับไฮเอนด์ มาจัดแสดงในงาน เพื่อแสดงถึงเทคโนโลยี ที่เพียบพร้อมด้วยความหรูหรา กับ เจเนซิส" มร. ฮิเดกิ ยานากิซาวา กล่าว
เจเนซิส ได้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 2548 ชื่อของเจเนซิส บ่งบอกถึงต้นกำเนิดของบางอย่าง ที่เป็นจุดกำเนิดที่แท้จริง ด้วยการเน้นถึงความเป็นมนุษย์เป็นจุดสำคัญ หรือ human-centric focus
เจเนซิส เป็นรถยนต์ที่ถูกสรรสร้างขึ้น เพื่อกำหนดมาตรฐานใหม่ ของความเป็นรถยนต์ระดับหรู ด้วยการผสานเทคโนโลยีระดับสูง เข้ากับความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุด ให้กับลูกค้า
ด้วยแนวคิด "Fluidic Sculpture 2.0" เจเนซิสรุ่นปี 2016 จึงกลายเป็นรถยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยความหรูหรา ทันสมัย และเต็มเปี่ยมด้วยพละกำลัง รวมถึงความสะดวกสบาย ด้วยการออกแบบที่ดึงดูดสายตา ได้แก่ กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมู, ไฟหน้า HID พร้อมโคมโปรเจกเตอร์, ไฟเลี้ยวบนกระจกมองข้างแบบ LED, ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (Daytime Running Light), เสาหลังคาด้านหลังที่ได้รับการออกแบบให้มีความลู่ลม และสปอร์ต และไฟท้ายแบบ LED ที่ให้ความสวยงามและสว่างคมชัด
ภายในได้รับการออกแบบให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ได้รับความสะดวกสบายสูงสุด ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆที่มอบความสะดวกสบายอย่างเต็มที่ ได้แก่ เบาะนั่งปรับไฟฟ้า 16 ทิศทางสำหรับคนขับ และ 12 ทิศทางสำหรับผู้โดยสาร ทุกที่นั่ง มีระบบปรับอากาศใต้เบาะทั้งลมร้อน และลมเย็น และหรูหรามากขึ้น ด้วยการตกแต่งด้วยลายไม้แท้ และอลูมิเนียมคุณภาพสูง ทรงพลัง ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3.8 ลิตร ไดเร็กอินเจคชัน พร้อมระบบวาล์วแปรผัน D-CVVT ที่ให้พละกำลังสูงสุด 315 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 397 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 สปีดพร้อมระบบ SHIFTRONIC ที่สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการ พร้อม paddle shifters ทั้งหมดนี้ ทำให้เจเนซิส เป็นรถยนต์ที่มีพละกำลังที่สูง ให้อัตราเร่งที่ดี และขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล
นอกจากนี้ เจเนซิสยังเต็มไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ที่มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยขณะขับขี่ ได้แก่ ระบบ intelligent drives modes ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ได้ตามสภาพถนน, ระบบ Emergency Steering Support, ระบบ Electronic Stability Control, ถุงลมนิรภัย 9 ใบ และพนักพิงศีรษะที่ถูกออกแบบเพื่อป้องกันการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอ ขณะเกิดการชนด้านหลัง และยังมีระบบ Blind Spot Detection และ Smart View System ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่, ระบบควบคุมปริมาณก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ภายในห้องโดยสาร, สัญญาณกะระยะขณะถอยหลัง รวมถึงเทคโนโลยีการออกแบบตัวถังเพื่อลดเสียงและแรงสั่นสะเทือน ทั้งหมดนี้ มีอยู่ในรถยนต์เจเนซิส
และอีกหนึ่งไฮไลท์ของฮุนไดในปีนี้ กับรถยนต์ฮุนได เอลันตร้า รถยนต์สปอร์ตซีดานที่ได้รับรางวัลจากเวทีระดับโลก ด้วยการออกแบบจากแนวคิด Fluidic Sculpture ที่มีเส้นสายที่พลิ้วไหว สวยงาม และสะดุดตา พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ที่ให้พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 178 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที ที่ให้พละกำลังที่แรง แต่ยังคงไว้ซึ่งความประหยัดน้ำมัน รถยนต์ฮุนได เอลันตร้า มีจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น SE, GLS Navi, GLE และ GL
สำหรับผู้สนใจรถยนต์ฮุนได ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 ในระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2559 ฮุนไดได้เตรียมข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าผู้ที่กำลังตัดสินใจ โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ฮุนไดประเทศไทย และที่โชว์รูมฮุนได ทั่วประเทศ