เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยเผยโฉมโคโลราโด เอ็กซ์ตรีม (Colorado Xtreme) และเทรลเบลเซอร์ พรีเมียร์ (Trailblazer Premier) ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2016 ครั้งที่ 37 Show vehicle ทั้งสองคันนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางใหม่อันน่าตื่นเต้นของเชฟโรเลตในการทำตลาดรถกระบะและรถเอสยูวีในประเทศไทย พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสแนวทางการออกแบบของเชฟโรเลตในอนาคต
มาร์คอส เพอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม ประเทศไทย และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าวระหว่างงานแถลงข่าวที่บูธเชฟโรเลตภายในงานมอเตอร์โชว์ว่า "Show vehicle ทั้งสองรุ่นได้รับการออกแบบขึ้นมาอย่างสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับความน่าตื่นเต้นและเพิ่มอารมณ์ความเป็นรถกระบะและรถเอสยูวี ซึ่งเซกเมนท์ที่มีความสำคัญ ตลอดจนเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเชฟโรเลตที่มีต่อตลาดรถในประเทศไทย"
คุณวันชนะ อูนากูล ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายวิศวกรรม จีเอ็ม ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า "เรานำเสนอรถสองคันที่พัฒนาบนโครงสร้างแพลทฟอร์มเดียวกัน ซึ่งรถทั้งสองคันนี้มีบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นั่นเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงศักยภาพและความสามารถที่จะปรับตัวได้ของแพลทฟอร์มดังกล่าว"
โคโลราโด เอ็กซ์ตรีม แสดงถึงความเป็นรถกระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง โดดเด่นด้วยสกู๊ปดักลมบนฝากระโปรง บันไดข้าง สปอร์ตบาร์ ตลอดจนซาฟารี บาร์ เน้นประโยชน์ใช้สอย ศักยภาพ และความแข็งแกร่ง ความบึกบึนของเอ็กซ์ตรีมยังถูกถ่ายทอดเข้าสู่ห้องโดยสารด้วยมาตรวัดเสริม และอุปกรณ์ตกแต่งอย่างมือจับฝั่งผู้โดยสารบนแดชบอร์ด และมาตรวัดระดับความเอียง
ความลุยของเอ็กซ์ตรีมยังรวมถึงยางออฟโรดเต็มรูปแบบขนาด 18 นิ้ว หน้าจอทัชสกรีนขนาดแปดนิ้ว และระบบมายลิงค์รุ่นล่าสุดที่รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้
ขณะที่เทรลเบลเซอร์ พรีเมียร์ เป็นรถเอสยูวีที่ออกแบบมาเพื่อครอบครัวที่ชื่นชอบการเดินทางบนเส้นทางแปลกใหม่ แต่ยังต้องการความสะดวกสบายและความหรูหรา เทรลเบลเซอร์ พรีเมียร์มีความนุ่มนวลและละเอียดอ่อนกว่าโคโลราโด เอ็กซ์ตรีมในแง่ของสีสันและวัสดุ เน้นย้ำความหรูหราด้วยการใช้โครเมียมโทนสีสว่างและวัสดุระดับพรีเมียมอย่างไม้ออสเตรเลียที่คัดสรรและผลิตด้วยมือ
ด้วยความใส่ใจสูงสุดต่อความสะดวกสบายของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ภายในห้องโดยสารเทรลเบลเซอร์ พรีเมียร์ได้รับการตกแต่งและประกอบด้วยคุณภาพเหนือระดับ การใช้สี วัสดุ และพื้นผิวที่มีความละเอียดและมีเอกลักษณ์สร้างความรู้สึกพรีเมียมในแบบที่ไม่ได้พบเห็นบ่อยครั้งนักสำหรับเซกเมนท์นี้ เทคนิคและกระบวนการตกแต่ง อย่างการขลิบขอบผ้าแบบพิเศษ และการตัดเย็บตาข่ายด้านหลังเบาะที่นั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วยมือช่วยเพิ่มบรรยากาศระดับพรีเมียมสุดพิเศษภายในห้องโดยสาร
นอกจาก Show vehicle ทั้งสองคัน ผู้เยี่ยมชมบูธเชฟโรเลตจะได้สัมผัสกับเชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปี 2016 โฉมใหม่ซึ่งเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกในประเทศไทยที่รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ผ่านระบบมายลิงค์แสดงข้อมูลผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาดเจ็ดนิ้ว ใช้กราฟฟิกที่มีสีสันชัดเจน ไอคอนที่อ่านง่ายขึ้น และทำงานเร็วขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มความสะดวกสบาย ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยผ่านการสั่งงานด้วยเสียงทั้งการโทรศัพท์และการส่งข้อความ
แคปติวายังเป็นรถรุ่นแรกของเชฟโรเลตที่มาพร้อมระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา (Side Blind Zone Alert) ระบบแจ้งเตือนการจราจรและสิ่งกีดขวางด้านหลัง (Rear Cross Traffic Alert) เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือการออกแบบกระจังหน้าแบบดูอัลพอร์ทใหม่ ที่มาพร้อมกับไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวันในตัวแบบแอลอีดี รวมถึงไฟตัดหมอกที่กันชนด้านหน้า นอกจากนี้ยังมีการปรับตำแหน่งของโบว์ไทสัญลักษณ์ของเชฟโรเลตให้สูงขึ้นอีกด้วย เมื่อมองในภาพรวม แคปติวามีรูปลักษณ์ที่สดใหม่ขึ้น เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและความรู้สึกร่วมสมัย
การพัฒนาด้านเทคโนโลยียังรวมไปถึงความสามารถในการตรวจสอบแรงดันลมยางแบบแยกส่วนแต่ละล้อได้ นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถปรับเปลี่ยนข้อมูลได้จากสวิทช์ด้านข้างพวงมาลัย สวิทช์บนคอนโซลเรืองแสงสีขาวช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ และถูกปรับตำแหน่งเพื่อความสะดวกสบายตามหลักการยศาสตร์ของผู้ขับขี่
ในงานมอเตอร์โชว์ เชฟโรเลตยังจัดแสดงเทรลเบลเซอร์ รถอเนกประสงค์ยอดนิยมรุ่นพิเศษที่มีชื่อว่า เทรลเบลเซอร์ เออร์แบน แพ็ค II (Trailblazer Urban Pack II) ซึ่งถูกตกแต่งเพิ่มเติม เพิ่มความแข็งแกร่งในขณะเดียวกันยังคงรักษาภาพลักษณ์ความหรูหราของตัวรถไว้เช่นเดิม โดยการติดตั้งสปอยเลอร์บนหลังคาสีเดียวกับตัวรถ พลาสติกกันรอยที่กันชนหลัง อุปกรณ์ตกแต่งประตูข้างแบบโครเมียม ไฟส่องสว่างขณะขับขี่กลางวันแบบแอลอีดี ล้ออัลลอยสีทูโทน และจอมอนิเตอร์แอลอีดีขนาด 10.1 นิ้วบนเพดานภายในห้องโดยสาร
เทรลเบลเซอร์ เออร์แบน แพ็ค II มีจำหน่ายในรุ่น 2.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อนสี่ล้อ LTZ1 มีสามสีให้เลือก ได้แก่ สีขาว Summit White สีดำ Black Sapphire และสีน้ำตาล Auburn Brown โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,512,000 บาท
นอกจากความอลังการของ Show vehicle และรถรุ่นใหม่ที่เชฟโรเลตนำมาจัดแสดง ผู้เยี่ยมชมบูธเชฟโรเลตและลูกค้าจะได้เพลินเพลินไปกับมุมอุปกรณ์ตกแต่งสำหรับรถเชฟโรเลตภายในงาน และโปรโมชั่นสุดพิเศษ โดยเฉพาะแคมเปญรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (trade-in program) ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง
ลูกค้าที่นำรถทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ มาแลกซื้อรถเชฟโรเลต จะได้รับส่วนลดเพิ่มจากราคาประเมินรถคันเก่า สำหรับเป็นส่วนลดแลกซื้อรถเชฟโรเลตคันใหม่มูลค่าสูงสุดถึง 50,000 บาท และรับส่วนลดเงินสดสูงสุดถึง 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยต่ำสุด 0.49 เปอร์เซ็นต์ และประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี
พิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงานมอเตอร์โชว์หรือที่ศูนย์ผู้จัดจำหน่ายเชฟโรเลตทั่วประเทศระหว่างวันที่ 21 มีนาคมถึง 3 เมษายน 2559 และรับมอบรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2559 จะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมฟรีทุกค่าใช้จ่าย หรือเลือกรับส่วนลดเงินสดเพิ่มสูงสุด 10,000 บาท และรับกระเป๋าเดินทางสุดหรูของเชฟโรเลตมูลค่า 3,000 บาท
นอกจากนี้สำหรับลูกค้าที่จองรถเชฟโรเลตระหว่างวันที่ 8 มีนาคมถึง 30 เมษายน 2559 จะได้รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลพิเศษบินลัดฟ้าสู่ประเทศอังกฤษ รับประทานอาหารค่ำท่ามกลางบรรยากาศสุดหรูในเชฟโรเลต เซนเทนเนียล สวีท ชมเกมการแข่งขันของทีมปีศาจแดง และพบปะกับนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างใกล้ชิด
ผู้เยี่ยมชมงานและลูกค้าเชฟโรเลตจะได้รับของขวัญที่ระลึก อาทิ กระเป๋าผ้าหรือแก้วจากเชฟโรเลต เมื่อลงทะเบียนภายในงาน และรับคูปองจากแมคโดนัลด์เมื่อทดลองขับ
พบยนตรกรรมอันน่าตื่นเต้นภายในบูธเชฟโรเลต A12 อิมแพ็ค ชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี
งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมระหว่างวันที่ 23 มีนาคมถึง 3 เมษายน 2559 ตั้งแต่เวลา 12.00 – 22.00 น.ในวันธรรมดา และ 11.00 – 22.00 น. ในช่วงสุดสัปดาห์