นางสาวสุดฤทัย ทองสอง ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเวลานาน ส่งผลให้คนไทยบางส่วนมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายที่มีความจำเป็นเช่น เรื่องการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะการเข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชน โดยกลุ่มที่มีรายได้ระดับกลางเริ่มหันมาใช้บริการโรงพยาบาลของรัฐ การใช้สิทธิ์ประกันสังคม หรือเลือกซื้อยาจากร้านขายยามารับประทานเองมากกว่า ส่งผลให้ภาพรวมของโรงพยาบาลเอกชนในปีที่ผ่านมามียอดลูกค้าคนไทยใช้บริการลดลงไปประมาณ 15 %
ดังนั้น ธนาคารกสิกรไทยจึงได้ร่วมกับโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ จัดแคมเปญ "Cycle of Care 2559สุขภาพดี...ใครก็มีได้ กับทั้งบัตรเครดิตและบัตรเดบิตกสิกรไทย" เพื่อช่วยลดภาระและส่งเสริมให้คนไทยได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพจากโรงพยาบาลระดับแนวหน้าของไทย โดยผู้ถือบัตรเครดิตและเดบิตของธนาคารกสิกรไทยได้รับสิทธิพิเศษจากการใช้จ่ายผ่านบัตรที่โรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศไทย อาทิ โรงพยาบาลในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ เครือโรงพยาบาลสมิติเวช เครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ เครือโรงพยาบาลพญาไท โรงพยาบาลบีเอ็นเอช เช่น ส่วนลดค่าห้องสูงสุด 30% ส่วนลดค่ายาสูงสุด 10% โปรแกรมตรวจสุขภาพราคาเดียวเพียง 2,559 บาท รายการตรวจสุขภาพราคาพิเศษจากโรงพยาบาลที่ร่วมรายการ พร้อมรับสิทธิ์แบ่งจ่าย KBank Smart Pay 0% สูงสุด 10 เดือนจากบัตรเครดิตกสิกรไทยที่โรงพยาบาลและคลินิกทันตกรรมชั้นนำกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้–31 ธันวาคม 2559
ทั้งนี้ การใช้จ่ายในหมวดสุขภาพและการรักษาพยาบาลผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มียอดการใช้จ่ายสูงต่อเนื่อง โดยในปี 2558 มียอดการใช้จ่ายรวมกว่า 20,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปี 2557 โดยเฉลี่ยมีการใช้จ่ายประมาณ 7,000 บาท/เซลส์สลิป คาดปี 59 มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 15% คิดเป็นมูลค่าราว 24,000 ล้านบาท
นางสาวสุดฤทัย กล่าวในตอนท้ายว่า การรักษาพยาบาล เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่สำคัญและจำเป็นของคนไทย ซึ่งธนาคารกสิกรไทยมีความห่วงใยต่อสุขภาพของลูกค้าทุกคน ดังนั้นการร่วมมือกับสถานพยาบาลชั้นนำในการจัดแคมเปญ "Cycle of Care 2559 สุขภาพดี...ใครก็มีได้ กับทั้งบัตรเครดิตและบัตรเดบิตกสิกรไทย" จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและส่งเสริมให้ผู้ถือบัตรได้รับการดูแลด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์การตลาดบัตรเครดิตและบัตรเดบิตกสิกรไทยที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ถือบัตรครบทุกกลุ่ม
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า จำนวนบัตรเครดิตทั้งระบบปี 2558 เติบโตประมาณ 8-10% แม้ว่าปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอาจไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเนื่องจากบางส่วนเป็นการเติบโตบนฐานลูกค้าเดิม อีกทั้งปี 2559 นี้ ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย โดยคาดว่าตลาดบัตรเครดิตจะเติบโตราว 8.5–9.5% สอดคล้องกับข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรในหมวดสุขภาพและการรักษาพยาบาลในฐานลูกค้าผู้ถือบัตรของธนาคารกสิกรไทย ในเดือน ม.ค. 59 เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันในปี 58 มีอัตราการเติบโตราว 9%