นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ตัดสินใจร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท ซีเจ อีแอนด์เอ็ม จำกัด บริษัท เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ยักษ์ใหญ่ในเอเชีย ซึ่งทำธุรกิจสื่อบันเทิงครบวงจร อาทิ ภาพยนตร์, เพลง, เคเบิล, เกมออนไลน์ และอื่น ๆ โดยเฉพาะด้านภาพยนตร์ที่ ซีเจ อีแอนด์เอ็ม เป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลี ด้วยการเปิดบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ "บริษัท ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด" ค่ายหนังน้องใหม่ผลิตภาพยนตร์ไทย เชื่อว่าความร่วมมือกันในครั้งนี้จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยอย่างแน่นอน และจะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยมีการพัฒนาอย่างเป็นระบบและเติบโตแข็งแรงมากยิ่งขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ภาพยนตร์ไทยที่สร้างออกมามีโอกาสส่งออกไปสู่ตลาดต่างประเทศทั้งในตลาดเอเชียรวมถึงประเทศจีนอีกด้วย โดยอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ระดับโลกจากทาง ซีเจ อีแอนด์เอ็ม ที่ได้ร่วมทุนสร้างภาพยนตร์ประสบความสำเร็จมาแล้วในประเทศต่าง ๆ กว่า 10 ประเทศทั่วโลก รวมทั้ง ยังมีรากฐานที่แข็งแรงในการผลิตภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระบบ โครงสร้าง วิธีการคิดต่าง ๆ การมอนิเตอร์ การประเมินโปรเจ็คของภาพยนตร์ต่าง ๆ ที่ออกมาล้วนแต่ประสบความสำเร็จเป็นส่วนมาก
นอกจากนี้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ยังเดินหน้าขับเคลื่อนเป็นหัวขบวนรถจักรใหญ่ในการพัฒนาอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์และภาพยนตร์ไทย ด้วยการลงทุนขยายตลาดสร้างโรงภาพยนตร์เปิดสาขาเพิ่มทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด และต่างประเทศ ตั้งเป้าครบ 1,000 โรง ใน 5 ปีหรือภายในปี 2563 แบ่งเป็น
โรงภาพยนตร์ในเมืองไทย 900 โรง และกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา, ลาว, พม่า และ เวียดนาม อีก 100 โรง ซึ่งจะเป็นช่องทางรองรับให้ภาพยนตร์ไทยมีโอกาสเติบโตเพิ่มมากขึ้นได้อย่างแน่นอน
ปัจจุบัน เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มีสาขาทั้งสิ้น 92 สาขา 606 โรง 140,584 ที่นั่ง เป็นสาขาในเขตกรุงเทพฯ 26 สาขา 253 โรง ต่างจังหวัด 38 จังหวัด 64 สาขา 341 โรง และต่างประเทศ 2 สาขา ที่ กัมพูชา 7 โรง และลาว 5 โรง รวม 12 โรง
ด้าน มร.เท-ซอง ชอง (Mr.Tae-Sung Jeong) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายภาพยนตร์ บริษัท ซีเจ อีแอนด์เอ็ม ฝ่ายภาพยนตร์ กล่าวว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาได้เห็นภาพยนตร์ไทยที่มีคุณภาพและมีคอนเซ็ปท์ที่แข็งแรงซึ่งนำพาไปสู่ความสำเร็จ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้คนดูภาพยนตร์ไทยมีความสนใจและให้ความสำคัญกับการผลิตภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาที่แปลกใหม่และพร้อมที่จะรับสิ่งใหม่ ๆ ถ้าสามารถที่จะผลิตงานออกมาให้คนดูชอบ พร้อมไปกับการวิเคราะห์คนดูไปพร้อม ๆ กัน รวมถึงการเปลี่ยนเทรนด์การตลาด การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สามารถที่จะเป็นจุดเปลี่ยนของตลาดภาพยนตร์ไทย
ซีเจ อีแอนด์เอ็ม มีความสนใจตลาดภาพยนตร์ในประเทศไทย เนื่องจากหากเทียบกับประเทศ รอบ ๆ หรือใกล้เคียงกัน ตลาดในประเทศไทยมีขนาดใหญ่กว่ามาก ดังนั้น การได้พันธมิตรที่แข็งแรงที่สุดอย่าง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ก็จะทำให้สามารถสร้างภาพยนตร์ไทยให้เป็น Asian Film ที่จะส่งออกไปยังตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ซีเจ อีแอนด์เอ็ม กำลังรุกขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายโดยตรงไปยังประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา, จีน, ญี่ปุ่น, เวียดนาม และอินโดนีเชีย พร้อมร่วมทุนกับบริษัทใหญ่ ๆ สร้างภาพยนตร์ที่มีคุณภาพในตลาดต่างประเทศมากขึ้นในอนาคต นอกเหนือจากประเทศเกาหลีและจีนแล้ว เชื่อว่าวงการภาพยนตร์ในประเทศไทยมีความเป็นไปได้สูงที่จะสามารถเติบโตในตลาดที่มีภาพยนตร์ในประเทศที่มีตัวตนที่ชัดเจนและเอาชนะหนังฮอลีวู้ดได้ นอกจากนี้ คิดว่า เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เป็นบริษัทที่ดีและเหมาะสมที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นบริษัทที่มีโรงหนังมากที่สุดในประเทศทั้งยังมีความสามารถในการผลิตภาพยนตร์อีกด้วย
เรามีความพยายามที่จะมีส่วนร่วมที่จะทำให้วงการภาพยนตร์ไทยเติบโตทั้งทางด้านคุณภาพและด้านปริมาณ โดยวิธีการผลิตภาพยนตร์ที่ดีมาก ๆ ที่หลากหลายด้วยภาพยนตร์หลาย ๆ ประเภท ที่มีคอนเซ็ปท์ที่สร้างสรรค์ เรื่องราวที่แข็งแรง และมีความแตกต่าง ในขณะเดียวกันก็จะพยายามค้นหาผู้มีความสามารถในการเป็นโปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ และนักเขียนบท เพื่อที่จะมาร่วมกันสร้างงานที่สร้างสรรค์โดยใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรามีอยู่อย่างเต็มที่ และสามารถทำให้คนดูภาพยนตร์ไทยรู้สึกเกินความคาดหวัง หรือมีความเชื่อมั่นในคุณภาพของภาพยนตร์ไทยมากขึ้น เชื่อว่า ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จะเติบโตไปเป็นสิ่งที่คนดูหลงและรัก ทางบริษัทจะผลิตภาพยนตร์ที่จะมาเป็นความภาคภูมิใจของวงการภาพยนตร์ไทย และวางแผนทางด้านการตลาดและการจัดจำหน่าย รวมทั้งสร้างกระบวนการพัฒนาระบบให้ภาพยนตร์ไทย ไม่เพียงแค่จะมาสร้างแบบอย่างใหม่ให้กับภาพยนตร์ไทย แต่จะต้องการทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยก้าวไปเป็นศูนย์กลางของเนื้อหาใหม่ ๆ โดยที่มีเป้าหมายเป็นทวีปเอเชียไปจนถึงตลาดโลกเลยทีเดียว
ส่วน สง่า ฉัตรชัยรุ่งเรือง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายภาพยนตร์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้เริ่มผลิตภาพยนตร์แล้ว 2 เรื่อง หนึ่งเรื่องเป็นภาพยนตร์โรแมนติก คอมเมอดี้ และอีกเรื่องเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่น ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกจะเข้าฉายให้ได้ชมกันภายในสิ้นปีนี้ เป็นการนำเอาภาพยนตร์เรื่อง "มิส แกรนนี่" (Miss Granny) ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในเกาหลีเมื่อปี 2014 มาทำเป็นเวอร์ชั่นไทย เป็นเรื่องราวของผู้หญิงอายุ 70 ปี ที่สละความสุขของตัวเองเพื่อครอบครัวมาโดยตลอด แต่ด้วยอะไรบางอย่างทำให้เธอได้กลับมาเป็นสาวสวยวัย 20 ปีอีกครั้ง เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานระหว่างความตลกและความซาบซึ้งไว้อย่างลงตัว เนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้พูดถึงเรื่องของคุณค่าครอบครัวซึ่งเป็นประเด็นที่ทุกวัฒนธรรมสามารถเข้าถึงได้ คิดว่าจะเป็นภาพยนตร์ไทยที่คนไทยจะสามารถหัวเราะและร้องไห้ไปกับภาพยนตร์เรื่องนี้แน่นอน เวอร์ชั่นนี้ได้ คุณโจอี้ อารยะ สุริหาร มาเป็นผู้กำกับ ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของคุณโจอี้ แต่คุณโจอี้ได้โชว์ความสามารถและฝีมือในการกำกับภาพยนตร์โฆษณามาแล้วมากมาย เชื่อว่าคุณโจอี้จะโชว์ฝีมืออย่างเต็มที่ในภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแน่นอน หวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะประสบความสำเร็จทั้งในด้านคุณภาพและรายได้เหมือนเรื่องนี้เคยทำมาแล้วในหลาย ๆ ประเทศก่อนหน้านี้ เช่นที่ประเทศจีนนำไปสร้างใหม่ชื่อว่า Twenty Once Again ก็ประสบความสำเร็จเก็บรายได้ไปเกือบ 70 ล้านเหรียญยูเอสของตลาดทั้งหมด และปลายปีที่แล้วทางเวียดนามก็นำไปสร้างใหม่ก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน และเดือนหน้านี้กำลังจะฉายในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น จากนั้นก็จะเป็นเวอร์ชั่นของประเทศไทย ซึ่งเกือบทุกประเทศก็ประสบความสำเร็จนั่นหมายถึงว่าตัวหนังมีความสนุกและเอื้อกับการตอบโจทย์ของตลาดเอเชียเป็นหลัก
ส่วนอีกโปรเจ็คเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่น ได้ คุณต้อม ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร เป็นผู้กำกับ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพัฒนาที่ประเทศเกาหลี เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นลุ้นระทึกที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้แล้วยังพัฒนาภาพยนตร์อีกหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น โรแมนติก, คอมเมอดี้, ภาพยนตร์วัยรุ่นและภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์โดยได้วางแผนไว้จะสร้างภาพยนตร์ 2 เรื่องภายในปีนี้ และอีกประมาณ 10 เรื่องภายใน 3 ปี