• บริษัท อาทติแฟค เทคโนโลยี (Artifact Technology)
• บริษัท เอ เอส จี ซอฟท์แวร์ โซลูชั่น (ASG Software Solutions)
• บริษัท เน็ตก้า ซิสเต็ม (Netka System)
• บริษัท ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ซีพีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด (APC by Schneider Electric)
• บริษัท ซิมพลิวิตี้ คอร์ปอเรชั่น (Simplivity Corporation)
• บริษัท สมาร์ท เซนส์ อินดัสเตรียล ดีไซน์ (SMART-Sense Industrial Design)
นายเจษฎา ภาสวรวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์ม เรสโซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า "ในทุกองค์กรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีความต้องการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อช่วยให้บริษัทฯ มีกำไรมากขึ้น หรือเพื่อเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้น ก็จะทำให้ขายได้มากขึ้น หรือหากทำงานเร็วขึ้นก็สามารถให้บริการลูกค้าได้มากขึ้น เป็นต้น ....ยุคต่อมา..ก็มีโซลูชั่นที่ว่าด้วยเรื่องการช่วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูล หรือระบบขององค์กร (Security Solution) เพื่อปกป้องความสูญเสียต่างๆ (Protect Lost) แต่พอมาถึงในปัจจุบันและอนาคต ยังมีอีกแง่มุมหนึ่งที่อาจต้องนำเข้ามาพิจารณา และก็เป็นสิ่งที่ทางบริษัทฯ ให้ความสำคัญ (Focus) และถือเป็นกลยุทธ์ในการคัดสรร
โซลูชั่นเข้ามานำเสนอ ซึ่งนั่นก็คือ การที่นำเทคโนโลยี ICT เข้ามาใช้แล้วทำให้คุ้มค้าแก่การลงทุนซึ่งไม่ได้หมายถึง การลดต้นทุนลงเป็นสำคัญเท่านั้น แต่เป็นการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้แล้วช่วยให้การบริหารจัดการระบบสารสนเทศขององค์กร สะดวก รวดเร็ว และประหยัด เหมาะสมกับการลงทุน (Cost Optimization) ดังนั้นผลิตภัณฑ์หรือโซลูชั่นที่ บริษัทฯ นำเสนอก็เข้ามาช่วยในมุมมองนี้ อาทิ การได้มาซึ่งข้อมูลระบบ, การแจ้งเตือนหรือค้นหาปัญหาในระบบได้สะดวกและรวดเร็ว, การควบคุมดูแลการใช้ทรัพยากรขององค์กร เช่น แอพพลิเคชั่น (Application) ได้ดีและสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้ดูแลระบบหรือผู้ใช้งาน ผู้ดูแลระบบมีเวลามากขึ้นสามารถให้บริการด้านอื่น ๆ โดยไม่ต้องกังวลอยู่กับระบบเดต้าเซ็นเตอร์ที่อาจไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทหรือองค์กร โดยในปัจจุบันบริษัท ไพร์ม เรสโซลูชั่น จำกัดได้แบ่งกลุ่มของโซลูชั่นที่โฟกัสออกเป็น 4 กลุ่ม คือ Big Data, Networking, Cloud และ Security นั่นก็หมายความว่าสิ่งที่บริษัทฯ มีในปัจจุบันนั้นสามารถนำเข้าไปใช้ในองค์กรหรือหน่วยงานได้หลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินและธนาคาร (Banking & FSI), โทรคมนาคม (Telco), โรงพยาบาล (Healthcare), ธุรกิจการให้บริการ (Hospitality), อุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing) หรือหน่วยงานภาครัฐเป็นต้น"
"สิ่งสำคัญที่สุดที่บริษัทฯ วางไว้เพื่อช่วยขยายธุรกิจให้เติบโตก็คือ พันธมิตรทางธุรกิจ (Business Partners) ดังนั้นบริษัทฯ จึงจำเป็นที่จะต้องคัดสรร Vendor ที่นอกจากจะมีเทคโนโลยีที่ดีตรงตามแนวทาง และกลยุทธ์ของบริษัทฯแล้ว ยังจะต้องพร้อมให้โอกาสซึ่งกันและกันในการร่วมคิดร่วมทำงาน และมีแนวทางการทำงานที่สอดประสานกัน ....ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็ไม่ละเลยที่จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะเป็นตัวแทน เพราะไม่อย่างนั้นความเสียหายจะไม่ได้ตกอยู่ที่บริษัทฯเท่านั้น แต่ยังจะไปตกอยู่กับทั้งคู่ค้าและลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือโซลูชั่นของบริษัทฯ อีกด้วย คู่ค้าของบริษัทฯ (System Integrators/Resellers) ยิ่งเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจค้าส่ง บริษัทฯ จะมีสินค้าหรือโซลูชั่น ดีแค่ไหน ก็โตไม่ได้ถ้าปราศจากความไว้วางใจจากคู่ค้า"
"และนอกจากนั้น การบริการอย่างมืออาชีพ (Professional Services) ก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นการทำงานทั้งก่อนและหลังการขาย (Presales/Post sales) จึงเป็นสิ่งที่บริษัทฯไม่อาจละเลย จึงได้มีเตรียมทีมงานวิศวกร (System Engineer) ที่มีศักยภาพไว้ให้การสนับสนุนคู่ค้าในการนำเสนอโซลูชั่นสู่ตลาด เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มของบริษัทฯ (Value Added) ให้กับคู่ค้า นอกจากนี้การพัฒนาศักยภาพของคู่ค้า ด้วยการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ (Partner Enablement) เพื่อให้พร้อมที่จะนำเสนอโซลูชั่นของบริษัทฯ ก็เป็นอีกส่วนที่ได้เตรียมการไว้ กิจกรรมให้ความรู้ (Market Education) เช่นงานสัมมนา หรือการใช้ Social Media ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะทยอยทำออกมา ส่วนเรื่องโปรแกรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ ก็จะเริ่มเห็นกันในช่วงปลายไตรมาส 2 ปีนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเปิดตัวเพื่อแนะนำบริษัทฯเข้าสู่ตลาดอย่างเป็นทางการในวันนี้ จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับองค์กรที่ต้องการตอบโจทย์การรองรับธุรกิจในโลกอนาคต และผมเชื่อมั่นว่า เราจะขึ้นแท่นการเป็นผู้นำได้ไม่ช้า"