สคร.10 อุบลฯ รณรงค์ค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ

พฤหัส ๓๑ มีนาคม ๒๐๑๖ ๑๖:๐๔
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี จับมือกรมราชทัณฑ์ จัดกิจกรรมคัดกรองและค้นหาผู้ป่วยวัณโรคแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ

วันนี้ 24 มีนาคม 2559 ที่เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี โดยนางสาวศิริวรรณ ชุมนุม หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ ร่วมกับ เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ จัดกิจกรรมคัดกรองและค้นหาผู้ป่วยวัณโรคแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำ โดยมีนายธีระ รักษาประเสริฐกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธี

นางสาวศิริวรรณ ชุมนุม กล่าวว่า สถานการณ์วัณโรคในประเทศไทยปัจจุบันยังมีความรุนแรง ประกอบกับวัณโรคยังเป็น 1 ใน 3 โรคหลักที่องค์การอนามัยโลกได้ตั้งเป้าหมายให้ปลอดผู้ป่วย ซึ่งในเรือนจำ 141 แห่งทั่วประเทศ ยังพบผู้ต้องขังป่วยวัณโรค และวัณโรคดื้อยาจำนวนมาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้ตระหนักถึงปัญหานี้ จึงได้ดำเนินงานควบคุมวัณโรคโดย การค้นหา การรักษา การส่งต่อ การรายงานข้อมูลผู้ป่วย รวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้วัณโรคแก่ผู้ต้องขัง เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องขังเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีโอกาสเสี่ยงสูง ซึ่งผู้ที่ได้รับเชื้อก่อนจำคุกสามารถแพร่เชื้อสู่ผู้ต้องขังรายอื่นได้ไม่ยาก และผู้ต้องขังที่ติดเชื้อไม่ว่าจะติดจากนอกหรือในเรือนจำ ก็สามารถกลับไปแพร่กระจายเชื้อให้กับชุมชนได้เมื่อพ้นโทษแล้ว ดังนั้น การค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในกลุ่มประชากรกลุ่มนี้จึงมีความสำคัญมาก ช่วยให้ได้รับการรักษาในการป่วยระยะเริ่มแรก ลดการแพร่กระจายเชื้อ ลดอัตราการเสียชีวิต รวมทั้งลดปัญหาการดื้อยาวัณโรค

นางสาวศิริวรรณ กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลผู้ป่วยวัณโรคในเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ พบว่า ในปี 2558 มีผู้ป่วยวัณโรคทั้งหมด 18 ราย ส่วนในปี 2559 นี้จากการคัดกรองเบื้องต้น พบผู้ต้องขังที่มีความเสี่ยงป่วยวัณโรคถึง 250 ราย จากผู้ต้องขังทั้งหมด 1900 ราย จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างเสมหะเพื่อตรวจยืนยันในห้องปฏิบัติการต่อไป

นอกจากนี้ ขอแนะนำประชาชนให้สังเกตอาการตนเอง ว่าเจ็บป่วยด้วยวัณโรคหรือไม่ โดยอาการจะเริ่มจากไอเรื้อรังนานเกิน 2 สัปดาห์ มีไข้ต่ำๆ ในช่วงบ่าย เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด บางคนยังทำงานได้ปกติ จึงทำให้เชื้อโรคแพร่ไปสู่คนอื่นได้ หากพบผู้ที่มีอาการดังกล่าว ขอให้รีบพาไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลหรือสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาให้เร็วที่สุด เพราะวัณโรคหากพบเร็ว โอกาสรักษาหายสูงและไม่แพร่กระจายเชื้อ ประชาชนที่มีความสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422. นางสาวศิริวรรณ กล่าวปิดท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ