สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นายชัชชัยกล่าวว่า "อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะสั้นอายุระหว่าง 3 เดือน - 1 ปี อยู่ที่ 1.37% ถึง 1.38% ต่อปี โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 0.01% ต่อปี ทั้งนี้มุมมองของบลจ.กสิกรไทยคาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี ไปอีกสักระยะหนึ่ง เนื่องจากมองว่าระดับอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันมีความผ่อนปรนเพียงพอแล้ว และเอื้อต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยและเหมาะสมต่อการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงที่กนง.กำลังติดตาม คือ ความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและเอเชียที่อาจส่งผลกระทบในวงกว้าง ขณะที่การดำเนินนโยบายทางการเงินที่แตกต่างกันของธนาคารกลางหลักๆ หลายแห่ง อาจส่งผลต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายรวมถึงทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นในบางช่วง อย่างไรก็ตาม กนง.ยังไม่ปิดโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต หากตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ออกมายังไม่สามารถฟื้นตัวได้ตามที่คาด อาทิ ตัวเลขการส่งออกที่อาจเติบโตได้น้อยกว่าที่คาดซึ่งอาจส่งผลต่อเนื่องไปถึงภาคการใช้จ่ายและการลงทุนภายในประเทศได้ ดังนั้น สำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก บลจ.กสิกรไทยขอนำเสนอกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการซึ่งบริษัทได้เปิดเสนอขายในสัปดาห์นี้ ไว้เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการแหล่งพักเงินในช่วงระยะเวลาประมาณ 6 เดือน และยังคงให้โอกาสรับผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ"
บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย
นายชัชชัยกล่าวถึงรายละเอียดของกองทุนต่อไปว่า สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ซีเอส (KEFF6MCS) เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี, เงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เงินฝาก First Gulf Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเงินฝาก Commercial Bank of Qatar, ประเทศกาตาร์ นอกจากนี้ยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ Yapi Kredi Bankasi A.S., ประเทศตุรกี โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KEFF6MCS สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com