• การสั่งซื้อครั้งใหญ่เพื่อรองรับความต้องการที่จะฟื้นตัวในอนาคต
ยูดี ทรัคส์ ประเทศไทย รถหัวลากที่เป็นมรดกจากประเทศญี่ปุ่น ปิดการขายล็อตใหญ่ยูดี เควสเตอร์ จำนวน 50 คันกับบริษัท ทิปโก้ แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางมะตอยสำหรับการตัดถนนระดับแนวหน้าของเอเชีย
นางสาววิลาวัลย์ วิศปาแพ้ว รองประธานฝ่ายการตลาดและสนับสนุนการขายบริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ทำการส่งมอบชุดแรกจำนวน 30 คันให้แก่ทิปโก้ แอสฟัลท์ เป็นที่เรียบร้อยที่โรงงานผลิตยางมะตอยของทิปโก้ แอสฟัลท์ ในจังหวัดระยอง ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 20 คัน คาดว่าจะสามารถดำเนินการส่งมอบได้ในเร็ว ๆ นี้ โดยคำสั่งซื้อทั้ง 50 คันนี้ เป็นรถหัวลากเควสเตอร์รุ่น GWE11 64T 30 แรงม้า 12 สปีดและ 9 สปีด
"คำสั่งซื้อชุดใหญ่นี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพของรถยูดี เควสเตอร์ ได้เป็นอย่างดี แน่นอน มันคงไม่ใช่เพียงแค่คุณภาพของสินค้าที่จะสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าของเรา แต่บริการหลังการขายถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญว่าจะสามารถสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าของเราได้ วันนี้เราได้รับคำสั่งซื้อจำนวนมากถึง 50 คันในคำสั่งซื้อเดียว ซึ่งเรายังมีลูกค้าอีกจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการเจรจาในขณะนี้" นางสาววิลาวัลย์ กล่าว
คำสั่งซื้อของทิปโก้ แอสฟัลท์ จำนวน 50 คันครั้งนี้ นางสาววิลาวัลย์ กล่าวว่าเป็นคำสั่งซื้อที่รวมไปถึงบริการหลังการขายในแพ็คเก็จ "Ultimate" ระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเป็นการตอกย้ำความมั่นใจในบริการหลังการขายของบริษัทฯ ว่าจะสามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับการขนส่งยางมะตอยของทิปโก้ แอสฟัลท์ ได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการรองรับกับแผนการเติบโตทางธุรกิจของการขนส่งยางมะตอยของลูกค้ารายนี้
"สำหรับสัญญาบริการหลังการขายแบบ 'Ultimate' นี้ จะสร้างความมั่นใจให้กับทิปโก้ แอสฟัลท์ ได้เป็นอย่างดีว่ารถบรรทุกยูดี เควสเตอร์ ทุกคัน จะสามารถวิ่งให้บริการขนส่งยางมะตอยได้ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งสอดคล้องกับสโลแกนของเราว่า 'Going Extra Miles' อีกทั้งทิปโก้ แอสฟัลท์ ยังสามารถคุมต้นทุนของธุรกิจสำหรับฝูงรถบรรทุกทั้ง 50 คันนี้ได้เป็นอย่างดี" นางสาววิลาวัลย์ กล่าว
ทิปโก้ แอสฟัลท์ เป็นบริษัทระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตยางมะตอยในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งนอกจากการผลิตยางมะตอยแล้ว บริษัทฯ ยังให้บริการการตัดถนนราดยางมะตอย รวมไปถึงการปรับพื้นผิวถนนด้วยยางมะตอย ซึ่งถือเป็นความจำเป็นของระบบขนส่งทางบกในประเทศไทยที่จะมีการเชื่อมโยงเครือข่ายภาคการขนบริเวณชายแดนเชื่อมต่อกับประเทศอื่นของประเทศไทย โดยปัจจุบันนี้ ทิปโก้ แอสฟัลท์ มีรถบรรทุกให้บริการขนส่งด้วยฝูงรถบรรทุกของตัวเองราว 400 คัน
"เราได้ข้อมูลที่สำคัญจากทิปโก้ แอสฟัลท์ เกี่ยวกับความต้องการของยางมะตอยว่ามีการประเมินกันว่าความต้องการจะมีการเติบโตในช่วงอีกไม่กี่ปีข้างหน้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นผลจากความพยายามผลักดันโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคจากภาครัฐบาล ซึ่งแน่นอนว่าโครงการเหล่านี้จะรวมไปถึงการโครงการขยายเครือข่ายถนน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อคำสั่งซื้อยางมะตอยจากทิปโก้ แอสฟัลท์ ด้วย จึงเป็นที่มาของคำสั่งซื้อที่เกิดจากความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขายของยูดี เควสเตอร์" นางวิลาวัลย์ กล่าว