มูลนิธิยูพีเอสสมทบทุน 14 ล้านดอลล่าร์ส่งเสริมโครงการดูแลความปลอดภัย พร้อมเพิ่มงบสนับสนุนโครงการเพื่อมนุษยชน 40% ทั่วโลก

พฤหัส ๐๗ เมษายน ๒๐๑๖ ๑๑:๑๕
ด้วยสถานการณ์วิกฤตผู้อพยพและความเสี่ยงต่อภัยคุกคามมนุษยชาติที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก มูลนิธิยูพีเอสจึงได้อนุมัติงบประมาณจำนวนสูงสุดเป็นประวัติกาลเพื่อสนับสนุนโครงการเพื่อการเตรียมความพร้อม การรับมือ และการฟื้นฟูจากผลกระทบจากภัยคุกคามมนุษยชาติ นอกจากนั้น ยังมีแผนการขยายความช่วยเหลือและความเชี่ยวชาญในการเดินหน้าโครงการถนนปลอดภัยทั่วโลกเพื่อสวัสดิภาพของผู้ขับรถ ผู้โดยสาร และผู้สัญจรบนถนน โดยมีการช่วยเหลือทั้งในรูปเงินบริจาคและการสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับองค์กรเอ็นจีโอ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และองค์กรของสหประชาชาติรวมกว่า 30 แห่ง เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 14 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

เอดูอาร์โด มาร์ติเนซ ประธานมูลนิธิยูพีเอส และ Chief Diversity and Inclusion Officer ยูพีเอส กล่าวว่า "การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อพยพและการเสริมสร้างความปลอดภัยในชุมชนคือสิ่งที่เราต้องลงมือทำอย่างเร่งด่วน เราได้พยายามหาวิธีนำเอาความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์มาช่วยแก้ปัญหา ช่วยเหลือผู้คน และสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนทั่วโลกมาโดยตลอด โดยการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่เป็นองค์กรเอ็นจีโอและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม"

ยูพีเอสจะบริจาคเงินให้สำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเพื่อใช้ในการขยายโครงการ UPS Relief Link ซึ่งจะช่วยให้การจัดส่งสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นสู่มือผู้อพยพรวดเร็วยิ่งขึ้น นับถึงปัจจุบัน โครงการ UPS Relief Link ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพแล้วกว่า 120,000 คน ย่นระยะเวลาการส่งสิ่งของจำเป็นเร่งด่วนสู่ค่ายผู้อพยพได้ถึง 50% เงินบริจาคนี้ยังนำไปใช้ในการฝึกอบรมการเตรียมพร้อมในการจัดส่งสิ่งของจำเป็นในยามฉุกเฉินและโครงการสำคัญอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้อพยพ

มูลนิธิยูพีเอสยังให้การสนับสนุนมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชียในโครงการ "เดินทางปลอดภัยสวมหมวกนิรภัยมาโรงเรียน" และโครงการ "ถนนปลอดภัย ชุมชนปลอดภัย" ซึ่งจะบริจาคหมวกนิรภัยให้นักเรียนในกัมพูชา ไทย และเวียดนาม ในปี 2559 นับตั้งแต่ริเริ่มโครงการ "เดินทางปลอดภัยสวมหมวกนิรภัยมาโรงเรียน" ในปี 2554 เป็นต้นมา อัตราการสวมหมวกนิรภัยของนักเรียนในพื้นที่ดำเนินโครงการสูงขึ้นตั้งแต่ 17 – 83% และช่วยปกป้องเด็กนักเรียน 289 คนจากอาการบาดเจ็บทางสมองจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์

นอกจากนั้น มูลนิธิยูพีเอสยังขยายความช่วยเหลือด้านเทคนิคและโลจิสติกส์โดยการส่งผู้บริหาร 5 คนไปทำงานในโครงการระยะยาวขององค์กรเอ็นจีโอ โดยผู้บริหารเหล่านี้จะไปทำงานในองค์กรที่ต้องการความเชี่ยวชาญและความช่วยเหลือด้านโลจิสติกส์ เช่น ผู้บริหารจากกลุ่มธุรกิจเฮลธ์แคร์ของยูพีเอสได้ช่วยวาง

กลยุทธ์สร้างความแกร่งให้กับซัพพลายเชนให้กับรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในอัฟริการ่วมกับองค์กรพันธมิตรทั่วโลกด้านวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันโรค ผู้บริหารจากกลุ่มธุรกิจยานยนต์ของยูพีเอสร่วมทำงานกับองค์กรของสหประชาชาติเพื่อวิเคราะห์การดำเนินการขนส่งด้วยรถบรรทุกในทวีปอัฟริกาและวางกลยุทธ์ในการพัฒนาระบบการขนส่งในอนาคต และผู้บริหารอีกคนได้ร่วมงานกับโครงการอาหารโลกในด้านการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับโรคระบาด

นอกจากนั้น ยังมีองค์กรเพื่อมนุษยชนอื่น ๆ ที่ได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิยูพีเอส ประกอบด้วย

• สภากาชาดอเมริกา – เพื่อช่วยเหลือด้านสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานหลังเกิดวิกฤต

• องค์การแคร์ สหรัฐอเมริกา – เพื่อสมทบทุนกองทุนฉุกเฉินและจัดเวิร์คช็อปเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพให้กับเจ้าหน้าที่โลจิสติกขององค์การแคร์ในประเทศที่มีความเสี่ยงสูง และการช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่าย

• มูลนิธิโอเปอเรชั่นโฮป – เพื่อสนับสนุนกองทุนฟื้นฟูเมื่อเกิดภัยพิบัติในการช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประสบภัย

• มูลนิธิยูนิเซฟ – เพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบรายงานผลภาพรวมเพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขของประเทศต่าง ๆ ติดตามตรวจสอบและบริหารงานคลังวัคซีนในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• ศูนย์พัฒนาความรับผิดชอบต่อสังคม สภาหอการค้าสหรัฐอเมริกา – เพื่อสนับสนุนโครงการลดความเสี่ยงทางธุรกิจจากภัยพิบัติ Saglam Kobi

• โครงการอาหารโลก สหรัฐอเมริกา – เพื่อสนับสนุนโครงการ Toward Zero Food Loss เพื่อลดความสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตเกษตร

ยูพีเอสยังส่งเสริมการขับขี่อย่างปลอดภัยในชุมชนต่าง ๆ ที่ยูพีเอสดำเนินธุรกิจอยู่ด้วยโครงการ UPS Road Code ซึ่งเป็นโครงการอบรมการขับขี่อย่างปลอดภัยสำหรับวัยรุ่น อายุ 13 – 18 ปี ภายใต้การดำเนินการร่วมกับ Boys & Girls Clubs of America ในสหรัฐฯ และร่วมกับองค์กรพัฒนาเยาวชนในประเทศอื่น ๆ โดยมีอาสาสมัครยูพีเอสเป็นผู้สอนโดยใช้แนวทางการขับขี่อย่างปลอดภัยของบริษัท ซึ่งนับถึงวันนี้ มีจำนวนผู้เข้าอบรมแล้วกว่า 22,900 คน และขยายการดำเนินการสู่ประเทศอังกฤษ แคนาดา เยอรมนี และจีน ในเดือนเมษายน 2559 ยูพีเอสวางแผนที่จะขยายโครงการสู่เม็กซิโกโดยมอบเงินสนับสนุนแก่องค์กร Guis de Mexico A.C. ตั้งแต่เริ่มดำเนินการโครงการ UPS Road Code มา มูลนิธิยูพีเอสได้สนับสนุนงบประมาณไปแล้ว12.5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

สำหรับโครงการส่งเสริมความปลอดภัยอื่น ๆ ทั่วโลก ประกอบด้วย

• ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค – โดยการสนับสนุนด้านบุคลากรในการประเมินผลโครงการ UPS Road Code ในปี 2559

• มูลนิธิกอนซาโล โรดิเกซ – ผ่านการสนับสนุนโครงการอบรมผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้โดยสารเด็ก

ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมการกุศลและอาสาสมัครของยูพีเอสได้ที่ www.UPS.com/Foundation.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version