“ปลัดเกษตรฯ” ตรวจเยี่ยมการฝึกภาคสนามปฏิบัติการทางทะเลของ “ผู้สังเกตการณ์บนเรือ รุ่นที่ 2” ก่อนออกไปทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์เรือประมงเพื่อควบคุมการทำประมงไทยให้ปราศจากการทำประมงที่ผิดกฎหมาย

จันทร์ ๑๑ เมษายน ๒๐๑๖ ๑๐:๑๗
?นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมการฝึกภาคสนามปฎิบัติการทางทะเล หลักสูตร การสร้างผู้สังเกตการณ์บนเรือ รุ่นที่ 2 ณ บริเวณท่าเทียบเรือศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAFDEC) อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ว่า กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมประมง ได้จัดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร "การสร้างผู้สังเกตการณ์บนเรือ" รุ่นที่ 2 (Fisheries Observer Onboard Program) ให้กับบุคคลที่จะคัดเลือกเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์บนเรือประมงตามหลักมาตรฐานสากลสำหรับควบคุมการทำประมงของไทยให้ปราศจากการทำประมงที่ผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ซึ่งมีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้ามาอบรม จำนวน 30 ราย โดยมีการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งด้านวิชาการ และสมรรถนะทางร่างกายและจิตใจ ให้สำหรับผู้จะเป็น Thailand Fisheries Observer Onboard โดยกรมประมงได้ส่งผู้เข้าอบรมลงเรือไปฝึกภาคปฏิบัติในทะเล ในระหว่างวันที่ 7 – 10 เมษายน 2559 เพื่อนำความรู้ข้อมูลทางวิชาการที่ได้อบรมมาฝึกปฏิบัติจริง ก่อนออกไปทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์บนเรือประมงและเรือขนถ่ายตามหลักมาตรฐานสำหรับควบคุมการทำประมงของไทยให้ปราศจากการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ภายใต้ พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558

ทั้งนี้ การเป็นผู้สังเกตการณ์บนเรือประมงจะต้องผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติอย่างเข้มข้น อาทิ ด้านการศึกษา ต้องมีวุฒิประมงหรือสาขาที่เกี่ยวข้อง มีทักษะพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์ สถิติเบื้องต้น การใช้คอมพิวเตอร์ ทักษะทางด้านภาษาต่างประเทศ มีสภาพร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์แข็งแรง และเป็นเพศชายที่พร้อมจะลงไปปฏิบัติหน้าที่บนเรือได้เป็นเวลานานๆ เพื่อไปทำหน้าที่สังเกตการณ์บนเรือประมงไทยที่ทำการประมงในเขตทะเลหลวง เรือประมงไทยที่ออกไปทำประมงในน่านน้ำของรัฐชายฝั่งอื่น และเรือประมงที่ขนถ่ายสัตว์น้ำนอกน่านน้ำ

" ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะได้เรียนรู้ทั้งหลักทฤษฎีและปฏิบัติ รวมทั้งเกิดความเข้าใจอย่างถูกต้องทั้งในเรื่องของอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ จรรยาบรรณของผู้สังเกตการณ์ ความรับผิดชอบของผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้ทำการประมงนอกน่านน้ำไทย กรอบโครงสร้างด้านกฎหมายและนโยบาย การจัดการประมง และการตรวจสอบความปลอดภัยก่อนการปฏิบัติงานในทะเล เป็นต้น"นายธีรภัทร กล่าว

นายวิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า ความรู้ที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้รับ จะเป็นประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมและใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการบันทึกข้อมูลการทำประมง อาทิ ชนิดของเครื่องมือที่ใช้ทำการประมง ชนิดสัตว์น้ำ ปริมาณสัตว์น้ำ เป็นต้น ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงอัตราการจับสัตว์น้ำและการประเมินทรัพยากรประมง เพื่อนำไปสู่การจัดการประมงที่ยั่งยืน รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับนานาชาติว่ากิจกรรมการทำประมงของเรือประมงไทยไม่เกี่ยวข้องกับการทำประมงผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ก่อให้เกิดการยอมรับในการส่งออกสินค้าประมงไทยและคงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๘:๐๖ นักศึกษาดิจิทัลมีเดีย SPU คว้า 3 รางวัลกราฟิกดีไซน์ระดับประเทศ ในงาน Thailand Design Creator Competition
๑๘:๑๗ โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์คอนเวนชั่น รับมอบตราสัญลักษณ์ มาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (TMVS) ในงาน MICE Standards Day
๑๘:๐๑ ดีป้า เปิดฉาก depa ESPORTS ACCELERATOR PROGRAM ติวเข้ม 10 ทีมน้องใหม่ ก่อนปล่อยของในกิจกรรม Demo Day Business
๑๘:๕๖ แคนนอนจัดสัมมนาใหญ่ THINK BIG ชูเทรนด์ดิจิทัลและโซลูชันอัจฉริยะ หนุนองค์กรเติบโตยั่งยืน
๑๘:๑๒ เปิดรับทุน ปลูกต้นกล้าพยาบาล 3 สถาบัน ประจำปีการศึกษา 2568 รอบสุดท้าย
๑๘:๕๒ ปรับกลยุทธ์โฆษณาปี 2568 ที่นักการตลาดต้องรู้ ด้วย Blockdit for Business
๑๘:๒๔ เอสไอจีจับมืออำพลฟูดส์ เปิดตัวนวัตกรรมขวดกระดาษครั้งแรกของไทย
๑๘:๓๕ ม.หอการค้าไทย ผนึกพันธมิตรชั้นนำจัดแข่งบาสเกตบอลเพื่อวัยรุ่น 3?3 UTCC Championship 2025 ชิงถ้วยและเงินรางวัล 3
๑๘:๐๕ เฮงลิสซิ่ง เดินหน้าขยายสาขา 32 แห่ง ปูพรมภาคเหนือ-กลาง-ตะวันตก พร้อมให้บริการสินเชื่อ 2 พฤษภาคม 2568
๑๘:๐๑ วช. ขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพื้นที่ 'ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5' มุ่งลดฝุ่นพิษภาคเหนืออย่างยั่งยืน