สพฉ.เตรียมพร้อมรับมือผู้ป่วยฉุกเฉินช่วงเทศกาลสงกรานต์ ย้ำช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้เร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินเพิ่มโอกาสรอดชีวิต แนะประชาชนเมาไม่ขับและหลีกทางรถพยายาล ย้ำหากเจ็บป่วยฉุกเฉินเข้ารักษาฟรี

จันทร์ ๑๑ เมษายน ๒๐๑๖ ๑๖:๐๗
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแหงชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นเท่าตัว เนื่องจากประชาชนเดินทางสัญจรกันมากขึ้น โดยสถิติจาก ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข ปี 2558 พบว่า มีผู้บาดเจ็บ 27,821 ราย ต้องเข้าพักรับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 3,985 ราย มีผู้เสียชีวิต 405 ราย โดยสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ร้อยละ 25 เกิดจากเมาสุราแล้วขับ ส่วนการออกปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินผ่านสายด่วน 1669 นั้น สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้ภายใน 8 นาที กว่าร้อยละ 70.21 และสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้ภายใน 10 นาที ร้อยละ 79.52 ทำให้ผู้ป่วยมีอัตราการรอดชีวิตมากขึ้น

อย่างไรก็ตามในช่วงสงกรานต์นี้ สพฉ. ได้ประสานไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการทั่วประเทศให้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ สายด่วน 1669 ให้พร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว และในปีนี้ได้เพิ่มการแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านแอพลิเคชั่น "EMS1669" เพิ่มเติมด้วย ซึ่งจะทำให้การแจ้งเหตุแม่นยำ และไปช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ สพฉ.ยังประสานหน่วยปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินในเตรียมพร้อมบุคลากรทางการแพทย์ฉุกเฉินให้เพียงพอต่อการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยจะมีผู้ปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินปฏิบัติหน้าที่เพิ่มเป็น 2 เท่า โดยเฉพาะในจังหวัดใหญ่ๆ และจังหวัดที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูง โดยเฉพาะในวันที่ 12 เม.ย. ที่คาดว่าประชาชนจะเดินทางมากขึ้น

"สิ่งสำคัญที่สุดของการลดอัตราการเจ็บป่วยฉุกเฉินจากอุบัติเหตุ คือผู้ขับขี่ต้องดูแลตัวเองด้วย คือ ดื่มไม่ขับ-ง่วงไม่ขับ โทรไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว คาดเข็มขัดนิรภัย-สวมหมวกนิรภัย และปฏิบัติตามกฎจราจรทุกครั้ง นอกจากนี้สิ่งสำคัญ คือหากเห็นรถพยาบาลเปิดเสียงไซเรนและไฟฉุกเฉินควรหลีกทางให้ด้วย เพราะทุกวินาทีมีความสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉิน"

นพ.อนุชา ยังกล่าวต่อถึงนโยบาย เจ็บป่วยฉุกเฉินรักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิว่า ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติสามารรถเข้ารับการรักษาได้ในทุกโรงพยาบาลฟรี ในช่วง 72 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นให้ส่งต่อผู้ป่วยไปรักษายังโรงพยาบาลตามสิทธิ โดยผู้ป่วยที่เข้าข่ายอาการฉุกเฉินวิกฤต จะอยู่ใน 25 กลุ่มอาการ อาทิ มีระดับการรู้สติเปลี่ยนแปลงไป ไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้น ระบบหายใจวิกฤต ระบบเลือดไหลเวียนวิกฤต หรือหากไม่แน่ใจว่าเข้าข่ายอาการวิกฤติหรือไม่ หากคิดว่าเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถโทรแจ้งสายด่วน 1669 ได้

อย่างไรก็ตามในช่วงเทศกาลนี้ ขอเป็นกำลังใจ และขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ฉุกเฉินทุกคนที่ทุ่มเท และเสียสละเวลาในช่วงวันหยุดยาว เพื่อให้การดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลัง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ