นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่จำกัด (มหาชน) หรือ RP ให้ความมั่นใจกับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นว่าธุรกิจมีความแข็งแกร่งและพร้อมจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเต็มศักยภาพ
"ผมขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่มอบความไว้วางใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ RP ตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมา เราตั้งใจอย่างเต็มที่จะพัฒนาบริการของเราให้ดีที่สุด เพื่อให้การขนส่งและเดินทางข้ามจากเกาะสมุย- พะงันสู่ฝั่งที่สุราษฎร์ธานีอย่างสะดวก ปลอดภัยมากที่สุด
ในรอบ 4-5 ปีนี้ ธุรกิจการท่องเที่ยวเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางภาคใต้ของไทย ซึ่งเป็นโอกาสของ RP ด้วย จากนี้ไปก็เป็นจังหวะก้าวที่สำคัญที่พวกเราทุกคนจะต้องเร่งทำงานให้หนักขึ้นเพื่อบริการดีที่สุดแก่ผู้โดยสารทุกคน ผมตั้งเป้าว่าเราจะพัฒนาธุรกิจให้มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% ในปีนี้"
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการเจรจาเพื่อจัดซื้อเรือเฟอร์รี่เพิ่มเติม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของกองเรือเฟอร์รี่ซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวน 12 ลำ และบริษัทฯยังได้เปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ระหว่างเกาะสมุย-พะงัน นอกเหนือจากเส้นทางดอนสัก- สมุย และดอนสัก-พะงัน ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งจัดตั้งบริษัทในเครือ (บริษัท อาร์พี แวน ทรานสปอร์ต จำกัด) ให้บริการรถตู้เพื่อรับส่งผู้โดยสารที่เดินทางมาเกาะสมุยหรือเกาะพะงัน รวมถึงบริการไปยังสนามบิน สถานีรถไฟและสถานีขนส่ง เพื่อให้บริการอย่างครบวงจร
ทั้งนี้ในปี 2558 บมจ.ท่าเรือราชาฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 622 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงาน 78 ล้านบาท มีจำนวนเที่ยวเรือที่วิ่งในปี 2558 สูงกว่าปี 2557 คิดเป็นร้อยละ 6.52
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการประจำปี 2558 ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด มีกำไรอย่างต่อเนื่อง มาจากความเชี่ยวชาญและการวางแผนงานที่ครบวงจรเพื่อสามารถให้บริการแก่ลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ขณะนี้ราชาเฟอร์รี่ฯ ถือว่าเป็นบริษัทที่มีกองเรือเฟอร์รี่มากที่สุดในธุรกิจขนส่งทางทะเลภาคใต้อยู่แล้ว คือ 12 ลำ เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการ ให้ความสำคัญทั้งทางด้านโลจิสติกส์และด้านการท่องเที่ยว เพื่อเป้าหมายการเป็นผู้นำในกิจการขนส่งและการเดินเรือทางทะเลในระดับภูมิภาคในอนาคต
บมจ.ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ มีทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 170 ล้านบาท ปี 2558 มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 1,161 ล้านบาท ทั้งเรือ สินทรัพย์ประเภทท่าเทียบเรือทั้งดอนสัก-สมุย และดอนสัก-พะงันซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินของตนเอง โดยในปี 2558 มีสัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 0.22 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2557 ซึ่งมีจำนวน 0.70 เท่า ลดลงถึง 0.48 เท่า โดยสาเหตุหลักมาจากการจ่ายชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินและมีการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558