"ดอร์ทมุนด์-สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี” ต้นแบบส่งออกแข้งไทยโกอินเตอร์

อังคาร ๑๙ เมษายน ๒๐๑๖ ๑๑:๑๘
เปิดใจ "บุญชู จันทร์สุวรรณ" เบื้องหลังโปรเจ็คยักษ์ "ดอร์ทมุนด์-สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี" ผู้หวังยกระดับเมืองขุนแผนเป็นต้นแบบอุตสาหกรรมส่งออกแข้งเยาวชน

กลายเป็นที่ฮือฮาเมื่อสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี 8 สมัย ร่วมเซ็นสัญญาผนึกกำลังเป็นพันธมิตรกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี และ บริษัท สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี จำกัด ในการสร้าง "สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี" หรือ SPFA ศูนย์ฝึกลูกหนังระดับเยาวชนครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทย ซึ่งเบื้องหลังสำคัญที่ทำให้โปรเจ็คยักษ์ชิ้นนี้เป็นจริงขึ้นมาได้ มาจากความตั้งใจของ นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้ที่มีใจรักและทุ่มเท หวังยกระดับเมืองขุนแผนให้เป็นจังหวัดต้นแบบในการพัฒนาเยาวชนไทยให้สามารถใช้การเล่นฟุตบอลสร้างมูลค่าให้กับตัวเองได้ พร้อมประกาศตัวว่าจะทำจังหวัดสุพรรรบุรีเป็น "อุตสาหกรรมส่งออกนักฟุตบอล" อย่างเต็มตัว

นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย นายธีรรัตน์ จึงยิ่งเรืองรุ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี จำกัด และคณะผู้บริหารจากเมืองไทย ลัดฟ้าเยือนประเทศเยอรมนี ร่วมเซ็นสัญญาผนึกกำลังเป็นพันธมิตรกับสโมสร โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี 8 สมัย ในการสร้างโปรเจกต์ "สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี" หรือ SPFA ศูนย์ฝึกลูกหนังระดับเยาวชนครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทย เพื่อต่อยอดสู่โครงการ "ดรีม 11" เฟ้นหาแข้งเยาวชนไทยฝีเท้าดีจากทั่วประเทศ 18 ราย ปลุกปั้นสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพเต็มตัว จนกลายเป็นกระแสฮือฮาในวงการลูกหนังเมืองไทย

อย่างไรก็ตามแม้หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นกับชื่อของ "นายก อบจ.เมืองขุนแผน" รายนี้มากนัก แต่ผู้คนในจังหวัดสุพรรณบุรี รู้ดีว่า นายบุญชู จันทร์สุวรรณ คือผู้ที่ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจอย่างแท้จริงตลอดระยะเวลาที่รับตำแหน่งกว่า 12 ปี ในการพัฒนาจังหวัดบ้านเกิด ให้ก้าวขึ้นมาเป็นจังหวัดต้นแบบที่เยาวชนสามารถใช้การเล่นกีฬาโดยเฉพาะ "การเล่นฟุตบอล"สร้างมูลค่าให้กับตัวเองได้ โดยการประกาศตัวว่าจะเป็นผู้ทำ "อุตสาหกรรมส่งออกนักฟุตบอล" อย่างเต็มตัว

นายบุญชู เผยถึงการเข้ามาเริ่มพัฒนาเรื่องฟุตบอลในจังหวัดสุพรรณบุรีว่า "การได้มารับตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรีทำให้ได้สัมผัสถึงความยากจนของผู้คนมากมาย ซึ่งผมมองว่าการจะแก้ปัญหาความยากจนได้นั้นเราต้องให้ประชาชนใช้ฝีมือในการทำงาน โดยที่ผ่านมาสังคมไทยไม่ค่อยสอนให้คนใช้ฝีมือมากนัก พอไม่มีฝีมือค่าตัวก็ต่ำ หลายคนไม่ได้ทำในสิ่งที่รักในสิ่งที่ชอบ บางคนชอบร้องเพลง บางคนชอบทำอาหาร หรือบางคนชอบกีฬา แต่ไม่มีทางเลือกมากนัก จึงทำให้ต้องทำงานไปวันต่อวันเพื่อเงินเดือนที่ไม่มาก และเมื่อไม่ได้ทำในสิ่งที่รักก็ไม่มีแรงจูงใจ ไม่เกิดการพัฒนา เมื่อผมเข้ามาจึงต้องการที่จะเปลี่ยนทัศนคตินี้ เพราะถ้าคนได้ทำในสิ่งที่รัก ก็จะทุ่มเทและอดทน ผมจึงต้องการใช้ความรักและความสามารถของคนมาพัฒนาประเทศ"

"สำหรับจังหวัดสุพรรณบุรี นั้นเป็นยุทธศาสตร์ด้านกีฬาอยู่แล้ว ฟุตบอลจึงเป็นอีกแนวทางสำหรับคนที่มีความรักในด้านนี้ให้ได้แสดงฝีมือ การเล่นฟุตบอลมีประโยชน์มากมาย ให้ทั้งความมีสปิริต รู้แพ้-รู้ชนะ และยังให้อาชีพ ปัจจุบันนักฟุตบอลที่มีฝีเท้าดีมีเงินเดือนหลักแสนบาท ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรีจึงประกาศตัวที่จะเป็นผู้ทำอุตสาหกรรมส่งออกนักฟุตบอลอย่างเต็มตัว ที่ผ่านมาเราเป็นจังหวัดแรกในการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกระดับเยาวชน มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกระดับชั้นประถมศึษา, มัธยมต้น และมัธยมปลาย มาอย่างต่อเนื่องกว่า 4 ปีแล้ว ในแต่ละปีมีเด็กเข้าร่วม 1,800 คน ซึ่งหลายคนได้ใช้กีฬาเป็นบันไดในการเข้าโรงเรียนดีๆ ใช้เป็นทุนเรียนฟรี ตลอดจนสังกัดสโมสรฟุตบอลอาชีพ ที่สำคัญยังเป็นการสร้างเวทีให้วัยรุ่นได้โชว์ เป็นการจัดระบบให้เขา เด็กที่เข้าร่วมจึงไม่มีปัญหาเรื่องทะเลาะวิวาทและยาเสพติด"

นายบุญชู ลงรายละเอียดเพิ่มเติมว่า "ในจังหวัดสุพรรณบุรี มี 10 อำเภอ ผมจึงจัดแข่งฟุตบอลในระดับประถมศึกษาอำเภอละ 10 ทีม ในรูปแบบลีกเก็บคะแนน พบกันหมดทั้งเหย้า-เยือน ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ จากนั้นทีมที่ได้ 3 อันดับแรกของแต่ละอำเภอ รวม 30 ทีม ก็จะมาแข่งกันต่อในรอบชิงชนะเลิศ เพื่อหาแชมป์จังหวัดในแต่ละปี เพราะฉะนั้นในแต่ละปีเด็กจะได้เล่นอย่างต่ำทีมละ 18 นัด เป็นเวลาต่อเนื่องกว่า 5 เดือนเต็ม เช่นเดียวกับระดับมัธยมต้น และมัธยมปลาย ที่มีระดับละ 25 ทีม รวมถึงในส่วนของการแข่งขันฟุตบอลอาวุโสที่มีมานานกว่า 9 ปีแล้ว รวมเบ็ดเสร็จกว่า 600 แมตช์ต่อปี ภายใต้งบประมาณปีละ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ผมยังสนับสนุนกีฬาอื่นๆอีกเช่น วอลเลย์บอลหญิง ตะกร้อ ฟุตซอล สนุกเกอร์ แข่งรถ ตลอดจนการแสดงอย่าง การร้องเพลง เล่นดนตรี หรือการเต้น ที่ทำแบบเป็นระบบต่อเนื่องไม่ใช่แข่งครั้งเดียวแล้วจบไป"

พร้อมกันนี้ "นายกฯบุญชู" ได้กล่าวถึงที่มาของโปรเจ็คยักษ์ จับมือกับสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมดังแห่งบุนเดสลีกา เยอรมนี ในการสร้าง "สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี" หรือ SPFA ศูนย์ฝึกลูกหนังระดับเยาวชนครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทย ว่า "ทุกวันนี้มีการแข่งขันฟุตบอลระดับเยาวชนมากมายในจังหวัดสุพรรณ แต่เรายังไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพที่ถูกต้อง นักฟุตบอลและโค้ชยังไม่ได้รับความรู้เฉพาะด้านอย่างแม้จริง เราจึงต้องการที่จะยกระดับในเรื่องนี้ ประกอบกับทางสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้เดินทางมาดูงานที่จังหวัดสุพรรณบุรี และเห็นความตั้งใจในการพัฒนาเยาวชนของเรา ซึ่งตรงกับแนวทางการปลุกปั้นนักฟุตบอลของทีม จึงได้มีการพูดคุยและตกลงจับมือร่วมกันพัฒนา"

"การได้เป็นพันธมิตรกับสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะช่วยยกระดับเด็กของเราให้สูงขึ้น เพราะทางสโมสรจะส่งโค้ชมืออาชีพมาร่วมอบรมโค้ชไทยในจังหวัดของเรา เพื่อให้นำไปใช้ฝึกสอนเด็กอย่างถูกวิธี รวมถึงโค้ชของทางสโมสรจะเป็นผู้ฝึกสอนเด็กด้วยตนเองด้วยเช่นกัน เมื่อเด็กมีความรู้ที่ถูกต้องก็จะสามารถพัฒนาฝีมือให้สูงขึ้นไปได้อีก เป็นการต่อเนื่องถึงการผลักดันเด็กให้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ มีค่าตัวแพงๆ และช่วยแก้ปัญหาความยากจน โดยเป้าหมายสูงสุดของผมคือจะทำให้เด็กจากจังหวัดสุพรรณบุรีมีเงินเดือนจากการเล่นฟุตบอลเดือนละ 1 ล้านบาทให้ได้ ไม่ว่าจะอยู่กับสโมสรไหนก็ตาม แต่ขอให้เริ่มต้นเล่นฟุตบอลมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี ผมถือว่าผมเป็นคนสร้าง ถ้าเด็กจะไปได้ดีที่ไหนผมก็ยินดี ซึ่งผมเชื่อว่าจะเป็นไปได้ภายใน 5-6 ปีจากนี้ เพราะตอนนี้มีเด็กฝีเท้าดีของเราไปอยู่กับอะคาเดมี่ในสโมสรดังๆหลายสิบคน"

นอกจากนี้ นายบุญชู ได้ทิ้งท้ายกับการร่วมมือกับ บริษัท สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี จำกัด ในการทำโปรเจกต์ "สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี" ว่าต้องเดินไปคู่กัน "เราในฐานะภาครัฐมีหน้าที่หลักคือสนับสนุนเยาวชนโดยไม่หวังผลตอบแทนในเรื่องของธุรกิจใดๆ แต่การได้บริษัทเอกชนเข้ามาช่วยสนับสนุนทำให้เราสามารถก้าวไปไกลขึ้น ทั้งสองอย่างต้องเดินไปควบคู่กัน หน้าที่ของเราคือจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยได้ประโยชน์จาก บริษัท สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี จำกัด ในการประสานงานและออกค่าใช้จ่ายในการดึงโค้ชของสโมสรระดับโลกอย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาช่วยฝึกสอน ซึ่งตัวเด็กเองนอกจากจะได้พัฒนาฝีเท้าแล้ว ยังได้โอกาสในการลุ้นเซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลอาชีพทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศด้วยเช่นกันผ่านโครงการ ดรีม 11 ที่คัดนักเตะฝีเท้าดีรวม 18 คน จากทั้งหมดที่เราปลุกปั้นขึ้นมา"

สำหรับโปรเจกต์ "สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี" มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานักเตะเยาวชนไทยให้มีฝีเท้าที่ได้มาตรฐานระดับสากลอย่างแท้จริง และต่อยอดสู่การป้อนนักเตะในโครงการสู่การเป็นนักเตะอาชีพลงเล่นในลีกประเทศไทย และต่างแดน โดยจะเปิดคัดนักเตะเยาวชนจากทั่วประเทศไทย เพื่อเฟ้นหา 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดในแต่ละตำแหน่ง และผู้เล่นสำรองอีก 7 ราย เข้าสู่โครงการ "ดรีม 11" (DREAM 11) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในฐานะพาร์ตเนอร์ ด้วยการส่งโค้ชมืออาชีพของทีมมาฝึกฝนทั้งนักเตะ และโค้ชถึงเมืองไทย รวมถึงเป็นผู้คัดเลือกนักเตะด้วยตนเองภายใต้มาตรฐานระดับโลก ร่วมกับนักเตะตัวจริงของทีมชาติไทย และโค้ชอาวุโสระดับ เอ-ไลเซนส์ ตลอดจนฝึกอบรมโปรแกรมการตลาด การทำระบบ "ซื้อ-ขายนักเตะ" ที่มีมาตรฐานสากล โดยเด็กที่ผ่านการคัดเลือกทั้ง 18 คน จะได้ฝึกซ้อม และแข่งขันกับทีมเยาวชนของ "เสือเหลือง" ที่ประเทศเยอรมนี ท่ามกลางแมวมองจากสโมสรชั้นนำทั่วทุกมุมโลกที่เดินทางมาร่วมชมฝีเท้า เพื่อโอกาสในการเซ็นสัญญาเข้าสังกัด พร้อมกันนี้ จะมีการทำรายการทีวี "ดรีม 11" ที่จะติดตามเฟ้นหาสุดยอดนักเตะจากทั่วประเทศเข้าสู่โปรแกรมระดับโลก โดยโครงการนี้จะเริ่มเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2016 เป็นต้นไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ