ดร.อดิศวร์ หลายชูไทย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวนโยบายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) ตระหนักว่า สถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น เป็นประเด็นทางด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประชาชนและภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง ธนาคาร ฯ จึงให้ความสำคัญในการใช้น้ำอย่างประหยัด โดยได้จัดโครงการ "กสิกรไทย ร่วมใจสู้ภัยแล้ง" ขึ้น ประกอบด้วยกิจกรรม 2 ส่วน คือ กำหนดกลยุทธ์ลดการใช้น้ำของธนาคารกสิกรไทยในฐานะองค์กรผู้ใช้น้ำ และร่วมสนับสนุนลดการใช้น้ำในภาคประชาชน
สำหรับการกำหนดกลยุทธ์ลดการใช้น้ำของธนาคาร ฯ ปัจจุบัน อาคารต่าง ๆ ของธนาคารกสิกรไทยมีการใช้งานที่หลากหลาย ประกอบด้วย อาคารสำนักงานใหญ่ อาคารหลักอื่นๆ และสาขา 1,120 สาขาทั่วประเทศ มีการกำหนดแผนและแนวทางการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้อาคารรุ่นใหม่ของธนาคารฯ ที่มีการออกแบบเพื่อการประหยัดน้ำและพลังงานเป็นพื้นฐานสำคัญ ส่งผลให้อาคารโดยทั่วไปของธนาคารกสิกรไทยมีปริมาณการใช้น้ำน้อยกว่ามาตรฐานอยู่ที่ประมาณ 28% อย่างไรก็ตาม ธนาคาร ฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะลดการใช้น้ำลงอีก เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงภัยแล้งนี้ โดยกำหนดกลยุทธ์ลดการใช้น้ำในธนาคาร ฯ ใน 4 ด้าน ได้แก่ ตรวจสอบซ่อมจุดน้ำรั่วซึม (Repair) ปรับวาล์ว ลดอัตราการไหลของน้ำลง (Re-Setting) ลดรอบการล้างทำความสะอาดรถยนต์ และการรดน้ำต้นไม้ของธนาคาร (Re-Schedule) รวมทั้งรณรงค์และให้ความรู้เรื่องการประหยัดน้ำ พร้อมปลูกจิตสำนึกการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพแก่พนักงาน (Re-Think) โดยธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าหมายให้การใช้น้ำของธนาคารฯ ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนปีนี้ลดลงอีก 10-15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งจะทำให้ภาพรวมธนาคารฯ มีการใช้น้ำน้อยกว่ามาตรฐานถึง 30%
ด้านการร่วมสนับสนุนการลดใช้น้ำในภาคประชาชน ธนาคารกสิกรไทยจะใช้ช่องทางบริการของธนาคาร ฯ ให้เป็นประโยชน์ในการนำเสนอข้อมูลที่จะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจและกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดแรงจูงใจที่จะประหยัดน้ำยิ่งขึ้น
นางนพวรรณ เจิมหรรษา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ภายใต้โครงการ "กสิกรไทย ร่วมใจสู้ภัยแล้ง" ธนาคารฯ จะจูงใจให้ลูกค้าประหยัดน้ำ โดยการออกแคมเปญ "ใช้น้ำลด งดค่าธรรมเนียม" สำหรับลูกค้าที่มีการใช้น้ำประปาระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 31 กรกฎาคม 2559 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า และชำระค่าน้ำผ่านเครื่องเอทีเอ็ม K-ATM หรือบริการธนาคารบนมือถือ K-Mobile Banking PLUS ของธนาคารกสิกรไทย จะได้รับสิทธิ์ 2 ต่อ โดยต่อที่ 1 ลูกค้าจะได้รับเงินค่าธรรมเนียมการจ่ายบิลค่าน้ำคืน 10 บาทต่อเดือน ต่อที่ 2 ลูกค้าที่ลดการใช้น้ำในช่วงเวลาโครงการได้ 3 เดือนขึ้นไป จะได้รับสิทธิ์การจ่ายบิลค่าน้ำฟรีค่าธรรมเนียมตลอดปี 2559 เพิ่มอีก
นางนพวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ลูกค้าที่สามารถลดการใช้น้ำได้ในระยะเวลาโครงการดังกล่าว จะมีสิทธิ์ได้รับเงินคืนสูงสุดรวม 90 บาท โดยทางธนาคารจะคืนเงินทั้งสองส่วนเข้าบัญชีที่ลูกค้า ภายในวันที่ 15สิงหาคม 2559 ทั้งนี้ นอกเหนือจากการออกแคมเปญดังกล่าวแล้ว ธนาคารฯ ได้ใช้สื่อช่องทางต่าง ๆ ของธนาคารในการให้ข้อมูลแก่ลูกค้า อาทิ การนำเทคนิคการประหยัดน้ำจาก K-Expert เผยแพร่ในช่องทางโซเชียล มีเดียของธนาคารฯ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางเอทีเอ็มทั่วประเทศ
ดร.อดิศวร์ กล่าวตอนท้ายว่า โครงการ "กสิกรไทย ร่วมใจสู้ภัยแล้ง" ทั้งการประหยัดการใช้น้ำของธนาคารเองและแคมเปญเพื่อลูกค้าดังกล่าว สะท้อนแนวทางการทำงานของธนาคารกสิกรไทยภายใต้แนวนโยบายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เป็นสำคัญ ดังนั้น ธนาคารฯจึงต้องมีการพัฒนากระบวนการทำงานในองค์กรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ตอบสนองกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสภาวะการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ทั้งนี้ เพื่อให้ภาพรวมของทุกภาคส่วนในสังคมดำรงได้อย่างมั่นคงในระยะยาว