นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช. ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) (CHO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลทั้งสิน 0.0308 บาทต่อหุ้น เป็นเงินสดในอัตรา 0.0058 บาทต่อหุ้น และปันผลเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน ในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็นอัตราหุ้นปันผล 0.025 บาทต่อหุ้น สำหรับงวดผลประกอบการปี 2558 โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 29 เมษายน 2559 เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2559
ขณะเดียวกันยังมีมติเห็นชอบการปรับสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 1 (CHO-W1) เพื่อรักษาผลประโยชน์ตอบแทนของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิไม่ให้ด้อยไปกว่าเดิมจากการจ่ายหุ้นปันผลของบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2559 นี้
พร้อมกันนี้ ยังมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 26,997,499.50 บาท โดยออกหุ้นสามัญที่เพิ่มทุน 107,989,998 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อรองรับการจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญ และรองรับการปรับสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทรุ่นที่ 1 (CHO-W1) พร้อมกับ แก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทข้อ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท
ขณะเดียวกันยังมีมติอนุมัติการออกหุ้นกู้ โดยประเภทขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาวะตลาดในขณะออกและเสนอขายหุ้นกู้นี้ในวงเงิน มูลค่ารวมของหุ้นกู้ที่ยังไม่ไถ่ถอน ณ ขณะใดขณะหนึ่ง กำหนดไว้ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท หรือในสกุลเงินอื่นในอัตราที่เทียบเท่า และมีอายุ สำหรับหุ้นกู้ระยะสั้นไม่เกิน 270 วัน และสำหรับหุ้นกู้ระยะยาวไม่เกิน 10 ปี
นอกจากนี้ ยังอนุมัติให้มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทฯ เป็น "ช ทวี" เพื่อแสดงถึงความเป็น CHO และสื่อถึงความหลากหลายด้านนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ ให้จดจำง่าย และมอบหมายให้กรรมการผู้มีอำนาจ หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท และแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท และแก้ไขข้อบังคับของบริษัทตามกฎหมาย
ส่วนผลประกอบการในปี 2558 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,158.79 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 35.74 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือประมาณ 650 ล้านบาท และอยู่ระหว่างรอลุ้นผลการประมูลงานใหม่ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งงานต่อเนื่องจากงานเดิมอีกจำนวนมาก
"ในปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 5 - 10% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,158.79 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีปริมาณงานในมือ (Backlog) แล้วประมาณ 650 ล้านบาท และอยู่ระหว่างรอลุ้นผลการประมูลงานใหม่ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายศูนย์ซ่อมบำรุงรถใหญ่เพิ่มอีกจำนวน 8 ศูนย์ เพื่อครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ให้เสร็จสิ้นภายในปี 2561 โดยจะเน้นให้บริการครบวงจรแบบ one-stop services เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสร้างมาตรฐานในการบริการอย่างดีที่สุด" นายสุรเดชกล่าวในที่สุด