นางสุมาลี อ่องจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำครั้งที่ 1/2559 ในวันที่ 22 เม.ย. 2559 มีมติอนุมัติในวาระสำคัญคือ การจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการดำเนินงานปี 2558 กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 3 สตางค์ต่อหุ้น โดยมีกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 พ.ค. 2559 นี้ แบ่งจากกำไรสุทธิของบริษัท งบเฉพาะกิจการในปี 2558 มาจ่ายทั้งสัดส่วน 100% หรือเป็นจำนวน 108.94 ล้านบาท และนำกำไรสะสมของบริษัทอีก 36.10 ล้านบาท มาจ่ายรวมด้วย คิดเป็นเงินจำนวน 145.04 ล้านบาท หลังหักเงินสำรองตามกฎหมายจำนวน 7.25 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นทั้งสิ้นคิดเป็นเงินรวม 137.79 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดภายในมากกว่า 900 ล้านบาท
"บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลได้จากกำไรทั้งหมด 100% เพราะเรามีเงินในมือจำนวนมาก ที่พร้อมใช้ในการลงทุน และทุกธุรกิจในกลุ่มของบริษัทตอนนี้สามารถเติบโตได้ดี และทำกำไรได้เป็นที่น่าพอใจ"
สำหรับนโยบายการลงทุนจะแบ่งเป็น 2 ประเด็นหลัก ประเด็นแรกคือ จะเน้นการลงทุนในธุรกิจที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ดี อีกทั้งสร้างกำไรสุทธิกลับมายังบริษัทอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะจากเงินปันผล ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีเงินปันผลที่ได้รับรับจากการลงทุนถือหุ้น ทั้งผ่านบริษัทย่อยคือ บริษัท อควาแอด (AA) ซึ่งบริษัทถือหุ้นสัดส่วน 100% ,บริษัทไทย คอนซูเมอร์ ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ (TCDC) บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 96.13% และ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 38.40% ประเด็นที่สองคือ สร้างการเติบโตจากแผนการแยกบริษัทย่อยคือ TCDC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อสร้างธุรกิจให้มีความหลากหลาย และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัท
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะหาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่สร้างผลตอบแทนได้ดี จากความพร้อมของเงินสดภายในที่มีจำนวนมาก โดยช่วงปลายปี 2558 บริษัทได้มีการลงทุนในธุรกิจโซลาร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่น 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 3.86 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ประมาณไตรมาส 1 ปี 2560 ซึ่งมีสัญญาขายไฟฟ้าระยะยาวเรียบร้อยแล้วเป็นระยะเวลา 20 ปี ในราคาขายไฟฟ้าที่ 36 เยนต่อหน่วย
อีกทั้งคณะกรรมการ(บอร์ด) ยังคงมองหาโอกาสการลงทุน ในโครงการต่าง ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ล่าสุด บริษัท มันตรา แอสเซ็ท จำกัด (มันตรา) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ซื้อที่ดินใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ก่อสร้างสถานฟื้นฟูสุขภาพ รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้นประมาณ 450 ล้านบาท ให้บริษัท เดอะ เคบิน เชียงใหม่ จำกัด (Cabin) เช่าทรัพย์สินทั้งหมดของโครงการภายหลังก่อสร้างแล้วเสร็จ เพื่อดำเนินธุรกิจฟื้นฟูสุขภาพ เป็นระยะเวลาเช่า 10 ปี และสามารถต่ออายุสัญญาเช่าได้อีก 10 ปี เป็นการกระจายการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้เช่าระยะยาว ซึ่งมีผลตอบแทนที่ดี ตลอดจนสร้างพันธมิตรในธุรกิจฟื้นฟูสุขภาพ และเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาการลงทุนในธุรกิจนี้ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในอนาคต
ส่วนแผนการนำบริษัท TCDC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นั้น คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายหลังบริษัทเพิ่มพื้นที่เช่าให้แก่ลูกค้ารายใหม่ สร้างรายได้เพิ่มอีกประมาณ 100 ล้านบาทประมาณไตรมาส 3 ปี 2559 เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่เช่าของ TCDC มีอัตราการเช่าพื้นที่เต็ม 100% โดยมีลูกค้าหลักคือ กลุ่มยูนิลีเวอร์ที่ทำรายได้ประมาณ 245 ล้านบาท เป็นสัญญาเช่าระยะยาว 10 ปี และมีบริษัท แอ๊คคอมพลิช เวย์ โฮลดิ้ง จำกัด (AWH) ที่สร้างรายได้อีกประมาณ 50 ล้านบาท