บริษัทอิปซอสส์ บิสสิเนส คอนซัลติ้ง ให้ความเห็นว่า ผู้เล่นรายใหญ่ในกลุ่มยานยนต์ ล้วนพยายามทำรายได้และสร้างกำไรสูงสุดจากตลาดหลังการขาย อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประกอบรถยนต์ดังกล่าวอาจจะไม่ได้เป็นผู้ได้ประโยชน์หลักจากการเติบโตของรถยนต์ที่หมดระยะประกัน (รถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป) คุณชูเกียรติ วงศ์ทวีรัตน์ ผู้จัดการอาวุโส – บริษัทอิปซอสส์ บิสสิเนส คอนซัลติ้ง ชี้ให้เห็นถึงข้อได้เปรียบของอู่ซ่อมรถยนต์อิสระ ที่มีอยู่ทั่วประเทศและมีการให้บริการที่หลากหลาย คุณชูเกียรติ อธิบายเพิ่มเติมว่า "จากจำนวนอู่ที่มีมากกว่า 10,000 แห่งกระจายทั่วประเทศ ทั้งอู่อิสระที่ได้รับการจดทะเบียนและเป็นพันธมิตรกับบริษัทประกันรถยนต์ และอู่อิสระที่ไม่ได้จดทะเบียน ทำให้อู่อิสระเหล่านี้เป็นช่องทางที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ที่เล็งเห็นถึงโอกาสและต้องการสร้างความได้เปรียบ ในการเข้าถึงลูกค้าสำหรับตลาดหลังการขาย" โดยคุณนทีเชื่อมั่นว่า โรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ควรมีการรับรู้และตื่นตัวต่ออิทธิพลโดยตรงของอู่อิสระเหล่านี้รวมไปถึง
ช่างที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในการเลือกชิ้นส่วนต่างๆในตลาดหลังการขาย รวมถึงการสร้างแบรนด์เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างสินค้าชนิดเดียวกันและสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดหลังการขาย "จากผลการศึกษาของ จะเห็นได้ว่าลูกค้ามีความเชื่อถือคำแนะนำของเจ้าของอู่หรือช่างซ่อมเป็นอย่างมาก ในการเลือกชิ้นส่วนต่างๆรวมไปถึง
แบรนด์ โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่จะคำนึงคุณภาพของอะไหล่เป็นหลัก และพิจารณาประกอบกับคำแนะนำของช่าง" คุณนที กล่าว
ผลการศึกษาอุตสาหกรรมยานยนต์จากบริษัทอิปซอสส์ ได้เน้นย้ำความสำคัญของช่องทางการจัดจำหน่ายและการกระจายอะไหล่รถยนต์ ซึ่งจะเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ต้องการจะชิงความได้เปรียบเทียบ
ท่ามกลางกระแสการเติบโตของอุตสาหกรรยานยนต์ในไทยโดยเฉพาะตลาดหลังการขาย โดยทางบริษัทอิปซอสส์เพิ่มเติมว่าผู้จัดจำหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่หรือยี่ป๊วะจัดเป็นพันธมิตรที่สำคัญสำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนที่มองถึงโอกาสการเติบโตในตลาดหลังการขายผ่านช่องทางตลาดอู่รถยนต์อิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่นอกกรุงเทพมหานคร
สำหรับรายงานฉบับเต็มของ Thailand Automotive Aftermarket สามารถดาวน์โหลดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่www.ipsosconsulting.com/ASEAN-Automotive