นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานมหกรรมการเงิน Money Expo เปิดเผยว่า วารสารการเงินธนาคาร จะจัด งานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 16 Money Expo 2016 ในวันที่ 12-15 พฤษภาคม 2559 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยงานปีนี้จัดขึ้นใน แนวคิด "Digital Life Digital Money ชีวิตดิจิทัล การเงินดิจิทัล" เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของสังคมไทยและสังคมโลก ที่กำลังก้าวไปสู่ "โลกดิจิทัล" อย่างแท้จริงทั้งในเรื่องของ Digital Money และ Internet of Things การสื่อสารที่ไร้พรมแดน เมื่อบ้านเรือน รถยนต์ อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ สามารถเชื่อมโยงสื่อสารกันเองได้
"ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2559 ที่จะถึงนี้ ตรงกับช่วงการจัดงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 16 Money Expo 2016 พอดี จะเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านของบัตรเดบิตของทุกธนาคารเข้าสู่ระบบชิพการ์ดทั้งระบบ เพื่อให้การใช้จ่ายของประชาชนเข้าสู่ระบบ e-Payment อย่างแท้จริง ปี 2559 จึงเป็นปีที่คนไทย สังคมไทย และระบบการเงินไทย ก้าวสู่ "โลกดิจิทัล" อย่างแท้จริง ถือเป็นการปฏิวัติไลฟ์สไตล์ของคนไทยและสังคมไทยครั้งใหญ่"
นายสันติกล่าวว่า เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิด "Digital Life Digital Money ชีวิตดิจิทัล การเงินดิจิทัล" งาน Money Expo 2016 ในปีนี้จึงได้จัดสรรพื้นที่เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสกับบริการการเงินดิจิทัลรองรับการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล โดยเพิ่มโซนพิเศษ คือ โซน FinTech & Startup เป็นโซนที่กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่นำเทคโนโลยีทางการเงินใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นมาจัดแสดง เพื่อให้ธนาคาร สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการ SME ได้เลือกสรรนำไปใช้เพื่อต่อยอดพัฒนาบริการของตนเองให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งประชาชนยังจะได้สมัครใช้บริการการเงินดิจิทัลผ่านแอพพลิเคชั่นทางการเงินรูปแบบใหม่ เช่น บริการซื้อประกันออนไลน์ บริการสมัครบัตรเครดิตออนไลน์ บริการกู้ยืมเงินออนไลน์ (P2P Lending) บริการซื้อขายหุ้นออนไลน์ บริการชำระเงินออนไลน์ (Payment Gateway) เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีโซน Digital Banking ที่เปิดให้ประชาชนได้สมัครใช้บริการการเงินดิจิทัลที่หลากหลายจากธนาคารต่างๆ สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และโซน Digital Economy ที่ประชาชนจะได้ทดลองใช้บริการดิจิทัลจากภาครัฐ โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงไอซีที
นายสันติกล่าวว่า ประชาชนที่เข้าชมงาน Money Expo 2016 จะได้เลือกใช้บริการทางการเงินและการลงทุนอย่างครบวงจรจากธนาคารและสถาบันการเงิน รวมทั้งการแสดงสินค้าและบริการจากองค์กรภาครัฐและเอกชนที่นำมาเสนอในงานอย่างคับคั่ง พร้อมด้วยแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษสุดในรอบปี ทั้งสิทธิประโยชน์ที่ดีที่สุด ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำที่สุด และผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด รวมไปถึงการลุ้นรางวัลชิงโชค ของแจก ของแถมอีกมากมาย
"แคมเปญเด่นภายในงาน ได้แก่ สินเชื่อบ้านดอกเบี้ย 0% 6 เดือน, สินเชื่อเงินสดโดยใช้บ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% 3 เดือน, เงินฝากอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.25% ต่อปี, สมัครบัตรเครดิต อนุมัติพร้อมรับบัตรได้ทันทีภายใน 1 ชั่วโมง, สินเชื่อเงินสดโดยใช้รถเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน รู้ผลอนุมัติภายใน 15 นาที เป็นต้น"
นายสันติกล่าวว่า งาน Money Expo เป็นมหกรรมการเงินการลงทุนที่ครบวงจรที่สุดในภูมิภาค และเป็นงานเดียวที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยตลอด 15 ปีสามารถสร้างยอดธุรกรรมเกิดขึ้นในงานเป็นมูลค่าถึงกว่า 1.5 ล้านล้านบาท จากผู้เข้าชมงานกว่า 12 ล้านคน และในงาน Money Expo 2015 มียอดธุรกรรมรวม 90,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่างาน Money Expo 2016 จะมียอดธุรกรรมไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา
สำหรับการจัดงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 16 Money Expo 2016 มีธนาคาร/สถาบันการเงิน/หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงานกว่า 260 แห่ง เพื่อนำเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนอย่างครบวงจร รวม 10 โซน ดังนี้
1.โซนตลาดเงิน เป็นโซนให้บริการทางการเงินจากธนาคาร และสถาบันการเงินอย่างครบวงจร ให้กับทั้งกลุ่มลูกค้ารายย่อยและลูกค้าผู้ประกอบการ
กลุ่มลูกค้ารายย่อย เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล สินเชื่อรถยนต์/รถมอเตอร์ไซค์ สินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน สินเชื่อบัตรเครดิตและบัตรเงินสด รวมไปถึงลูกค้า เงินฝาก หรือลูกค้าที่ต้องการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล สลากออมทรัพย์ บริการไพรเวทแบงกิ้ง
กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการ เช่น สินเชื่อเอสเอ็มอี สินเชื่อเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน สินเชื่อนำเข้า-ส่งออก
2.โซนตลาดทุน เป็นโซนให้บริการการลงทุนที่ครบถ้วน ทั้งหุ้น กองทุน ทองคำ นำโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัทในเครือ ได้แก่ ตลาดตราสารหนี้ ตลาดอนุพันธ์ ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน (TSI)รวมทั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)และบริษัทโบรกเกอร์ทอง
3.โซนประกันชีวิต/ประกันภัย เป็นโซนให้บริการด้านประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันวินาศภัย หลากหลายรูปแบบ ทั้งที่เน้นเรื่องความคุ้มครอง และแบบที่เน้นเรื่องการออมและการลงทุน ได้แก่ ประกันโรคร้ายแรง ประกันอวัยวะ ประกันสะสมทรัพย์ ประกันบำนาญ ประกันอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัย ประกันสินเชื่อบ้าน ประกันสินเชื่อรถ, Unit Link, Universal Life เป็นต้น
4.โซน Digital Banking เป็นโซนที่ธนาคารนำเทคโนโลยีการเงินของธนาคารในปัจจุบันและอนาคตมาแสดงและสาธิตให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการ เช่น อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง โมบายล์แบงกิ้ง บริการฝาก-ถอนเงินและซื้อสินค้าผ่านมือถือโดยใช้บาร์โค้ด บริการจ่ายเงิน/ชำระบิลผ่านมือถือ บริการกระเป๋าเงินดิจิตอล และแอพพลิเคชั่นทางด้านการเงินต่างๆ
5.โซน Digital Economy เป็นโซนที่กระทรวงไอซีที (ICT) และหน่วยงานภายใต้สังกัด ได้แก่ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA), สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (EGA), สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (SIPA), บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (CAT), บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (TOT),บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด นำบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐมาให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการ
6.โซน FinTech & Startup เป็นโซนที่กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (FinTech Starup) นำเทคโนโลยีทางการเงินใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นมาจัดแสดง เพื่อให้ธนาคาร สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการ SME ได้เลือกสรรนำไปใช้เพื่อต่อยอดพัฒนาบริการของตนเองให้มีประสิทธิภาพ และมีโอกาสได้รับการพิจารณาตัดสินใจร่วมทุนจากนักลงทุนต่างประเทศ รวมทั้งประชาชนยังจะได้สมัครใช้บริการทางการเงินในยุคดิจิทัลผ่านแอพพลิเคชั่นทางการเงินรูปแบบใหม่ เช่น บริการซื้อประกันออนไลน์ บริการสมัครบัตรเครดิตออนไลน์ บริการกู้ยืมเงินออนไลน์ บริการซื้อขายหุ้นออนไลน์ บริการชำระเงินออนไลน์ (Payment Gateway) เป็นต้น
7.โซนอสังหาริมทรัพย์ เป็นโซนให้บริการจำหน่ายที่อยู่อาศัยทุกประเภทในราคาพิเศษ เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม ในทุกทำเลทั่วประเทศ จากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ มาจับคู่กับสินเชื่อของธนาคารเพื่อให้ประชาชนที่สนใจกู้ซื้อบ้านในอัตราดอกเบี้ยต่ำ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษได้ทันทีภายในงาน
8.โซนรถยนต์ ให้บริการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ยี่ห้อดัง พร้อมสินเชื่อรถยนต์ ประกันรถยนต์ และโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ มากมาย เช่น เงินดาวน์ต่ำ ผ่อนนาน ฟรีค่าธรรมเนียมต่างๆ เป็นต้น
9.โซน SME & Lifestyle เป็นโซนขายสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียมในราคาพิเศษ ทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายและสินค้าแฟชั่นหลากหลายชนิด
10.โซน Gourmet & Cuisine Shop Chim Avenue เป็นโซนจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่มและอุปกรณ์เครื่องใช้และของตกแต่งในครัวเรือนแบบพรีเมียมทั้งจากในประเทศไทยและจากนานาประเทศ ซึ่งคัดสรรเป็นพิเศษโดยทีมงานนิตยสาร Gourmet & Cuisine เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้เพลิดเพลินไปกับการจับจ่ายสินค้าคุณภาพสูงหลากรสนิยมและอาหารอร่อยจากแบรนด์ชั้นนำ
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมพิเศษ ประกอบด้วย กิจกรรมสัมมนา เพื่อให้ความรู้ทางการเงินการลงทุน โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในตลาดเงินและตลาดทุน ประกอบด้วย พื้นที่สัมมนา 2 ส่วน คือ บริเวณบูธตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และห้องสัมมนาขนาด 300 ที่นั่ง โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจตลอดการจัดงานทั้ง 4 วัน ได้แก่ FinTech VS Bank Thai...ใคร "Fin", Blogger VS Trader "ทำเงินให้เร็วและแรง", ลงทุนพอร์ตเด่นกำไรดี, คู่หูคู่หุ้น VS เสือสมาร์ท "เลือกหุ้นที่ใช่ ลงทุนแบบที่ชอบ", GenX VS NewGen "หุ้นเล็กหุ้นใหญ่ หุ้นไหนกำไรดี",The Battle สองกูรู "หุ้นเด่นปะทะกองทุนดัง" เป็นต้น
รวมทั้ง กิจกรรม Workshop เพื่อให้ความรู้และคำแนะนำด้านการลงทุนในแบบรู้ลึก รู้จริง และนำไปปฏิบัติได้ ในห้อง Workshop ที่จัดขึ้นเป็นพิเศษ โดยมีหัวข้อการ Workshop ที่น่าสนใจมากมายตลอดทั้ง 4 วัน ได้แก่Trading for living, เลือก "คอนโด" ยังไง ให้เฮง และรวย, สร้างระบบ ลงทุน "หุ้น" ด้วยตัวเอง, แกะพื้นฐาน "หุ้น" น่าลงทุน, เปิดเรดาร์ หา "หุ้นเทคนิค", "จีน" โอกาสทองในการ "ลงทุน", Forex รวยหรือไม่ ใช่หรือมั่ว, วาง "แผนการเงิน" ฉบับใช้ได้ตลอดชีพ
อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานคือ การแสดงมินิคอนเสิร์ต จากดารานักร้องและศิลปินชื่อดังตลอด 4 วัน เพื่อสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้เข้าชมงาน เช่น ก้อง สหรัถ สังคปรีชา, ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี, บี้ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว, เวียร์ ศุกลวัฒน์, บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์, เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์, อ๊อฟ ปองศักดิ์, บี้ KPN, ลุลา, Room39, Jetset'er, บอล จิตรภาณุ กลมแก้ว, บ๊อบ ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์, มาตัง ระดับดาว - กั้ง วรกร The Star, อิมเมจ สุธิตา The Voice Thailand, ลูลู่-ลาล่า อาร์สยาม, Three King (อู๋ ธนาธร, ต้า Mr.team, Ford สบชัย), The Copy Show by Opalจากรายการตีสิบ ดันดารา, การแสดงธีรราชา, โชว์อุลตร้าแมน เป็นต้น