ฟุตบอลนับเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในไทย และเยาวชนไทยจำนวนมากมีความชื่นชอบ ซึ่งหากเยาวชนได้รับโอกาสในการพัฒนาทักษะการเล่นฟุตบอลอย่างถูกวิธี จะช่วยส่งเสริมให้เยาวชนมีน้ำใจนักกีฬา มีความรู้ความสามารถและมีศักยภาพ สามารถก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต
โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ร่วมกับ สโมสรพีทีที ระยอง เปิดโครงการโครงการส่งเสริมและพัฒนาฟุตบอลเยาวชน ประจำปี 2559 พร้อมด้วยพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนระยอง PTT Rayong Youth League 2016 โดยได้รับเกียรติจาก นายสรัญ รังคสิริ ประธานสโมสรฟุตบอล พีทีที ระยอง และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้นำชุมชนในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด ร่วมในพิธีเปิด ซึ่งมีเยาวชนและผู้ปกครอง และชุมชนในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุดและในจังหวัดระยองเข้าร่วมงานจำนวนมาก ณ สนาม PTTGC สำนักงาน จังหวัดระยอง ซึ่งนับเป็นปีที่ 2 ที่ พีทีที โกลบอล เคมิคอล ได้จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาฟุตบอลเยาวชน เพื่อมุ่งเน้นในการสร้างสรรค์และพัฒนาเยาวชนด้านกีฬาฟุตบอลอย่างแท้จริง
โครงการส่งเสริมและพัฒนาฟุตบอลเยาวชน ประกอบด้วย การแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนระยอง PTT Rayong Youth League และการฝึกสอนทักษะฟุตบอลเบื้องต้น PTTGC Football Clinic 2016 มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและพัฒนาเยาวชนที่มีใจรักและชื่นชอบกีฬาฟุตบอลให้ได้มีโอกาสพัฒนาทักษะการเล่นฟุตบอลที่ถูกต้องจากผู้ฝึกสอนที่มีประสบการณ์ และก้าวไปสู่การพัฒนาการเล่นฟุตบอลในระดับที่สูงขึ้น โดยการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนระยองPTT Rayong Youth League เป็นการแข่งขันฟุตบอล 9 คน รุ่น อายุไม่เกิน 8 ปี 10 ปี และ 12 ปี จำนวนรุ่นละ 8 ทีม จัดการแข่งขันประมาณ 7 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน - ตุลาคม 2559 ณ สนามฟุตบอลสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และสนาม PTTGC สำนักงาน จังหวัดระยอง ส่วนการฝึกสอนทักษะฟุตบอลเบื้องต้น PTTGC Football Clinic 2016 จัดสำหรับเยาวชนอายุ 8-12 ปี จำนวน 150 คน โดยทีมผู้ฝึกสอนจาก พีทีที ระยอง อะคาเดมี จัดเดือนละ 1 ครั้ง ระหว่างเดือนเมษายน – ธันวาคม 2559 โดยจะเวียนจัดการฝึกสอนตาม ณ สนามฟุตบอลสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา และสนาม PTTGC สำนักงานระยอง
นายสรัญ รังคสิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานสโมสร พีทีที ระยอง กล่าวว่า สโมสร พีทีที ระยอง มุ่งหวังให้เยาวชนในจังหวัดระยองได้พัฒนาทักษะการเล่นฟุตบอลที่ถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการแข่งขันฟตุบอลเพื่อการพัฒนาศักยภาพตนเอง และก้าวสู่โครงการ PTT Rayong Academy และมีโอกาสได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพต่อไปในอนาคต
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นในการสนับสนุนกิจกรรมด้านกีฬาแก่เยาวชนอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่า กีฬาจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนเป็นอย่างดี ทั้งในด้านสุขภาพกายและใจ การปลูกฝังให้เยาวชนมีน้ำใจนักกีฬา และส่งเสริมให้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์เพื่อลดปัญหายาเสพติดและปัญหาสังคมอื่น ๆ สำหรับการจัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาฟุตบอลเยาวชนครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างรากฐานการเรียนรู้ด้านกีฬาฟุตบอลแก่เยาวชน และเยาวชนสามารถนำไปต่อยอดให้มีความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นเพื่อพัฒนาความสามารถของตนเองต่อไป
ด้าน นายทวีศักดิ์ โมราศิลป์ ผู้อำนวยการ พีทีที ระยอง อะคาเดมี เผยว่า โครงการ PTTGC Football Clinic มีโค้ชมืออาชีพจาก พีทีที ระยอง อะคาเดมี เป็นผู้ดูแลหลักสูตร และเป็นผู้สอน โดยจะจัดการสอน 10 ครั้งซึ่งแต่ละครั้งจะมีรูปแบบไม่เหมือนกันและจะหมุนเวียนสอนตามสนามต่าง ๆ ในชุมชน รวมทั้งการจัดแข่งขันฟุตบอลเยาวชนไปพร้อมกันเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีประสบการณ์จากการแข่งขัน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อทดสอบและคัดเลือกเยาวชนที่มีการพัฒนาทั้งในด้านทักษะพื้นฐานและการเข้าใจเกม เพื่อเข้าร่วมใน พีทีที ระยอง อะคาเดมี กิจกรรมฟุตบอลคลินิกเป็นการแบ่งปันความรู้และถือเป็นจุดเริ่มของการต่อยอดสู่การเล่นฟุตบอลระดับสูงต่อไป
สำหรับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ "ข้าวโอ๊ต" อโณทัย เรืองพรหม ปีกซ้ายวัย 10 ขวบ เล่าว่า เล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 6 ขวบจนถึงขณะนี้ เพราะมีความชอบฟุตบอลและสนุกกับการเล่นฟุตบอลแม้ว่าบางครั้งจะรู้สึกเหนื่อย อยากเล่นเก่งเหมือน อมาดู นักเตะพีทีที ระยอง เพราะมีความเร็วและยิงแรง สำหรับประสบการณ์ที่ได้รับจากการเข้าร่วม PTTGC Football Clinic นั้น นอกจากจะได้รู้จักเพื่อนใหม่แล้ว ยังได้ความรู้ทักษะการเล่นฟุตบอลที่จำเป็นสำหรับการเป็นนักฟุตบอลที่ดีอีกด้วย เช่น การเลี้ยงบอล รับบอล จ่ายบอล ส่วนอนาคตนั้นอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ซึ่งข้าวโอ๊ตบอกว่า ตัวเองเก่งปานกลางซึ่งถ้าอยากเล่นฟุลบอลให้เก่งก็ต้องพยายามและฝึกฝน
นายอลงกรณ์-นางสุรีรัตน์ เรืองพรหม คุณพ่อคุณแม่ของ "ข้าวโอ๊ต" เผยว่า โครงการ PTTGC Football Clinic เป็นโครงการในชุมชนมาบตาพุดที่ดีมาก และอยากให้จัดขึ้นทุกปี เพราะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีและเปิดโอกาสให้เด็กได้ฝึกทักษะฟุตบอลต่าง ๆ กีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาที่ช่วยให้ลูกรู้จักการแพ้การชนะและการให้อภัย และทำให้ลูกมีเพื่อนต่างโรงเรียนมาก วันนี้หวังว่า ลูกจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รู้จักโค้ชใหม่ และมีเพื่อนใหม่ อยากให้ลูกมีการพัฒนาด้านฟุตบอลและเจริญรอยตามนักเตะของ ปตท. ที่มีหลายคนเป็นดาวเด่น และอยากให้ลูกอยู่ทีมในจังหวัดระยองที่เป็นบ้านเกิดนี้
"เอดี" มิราโก้ อินอร่าม กองหลังวัย 10 ขวบ และ "เจอาร์" วีชั่น อินอร่าม กองหน้าวัย 9 ขวบ สองพี่น้องนักฟุตบอล บอกว่า ชอบเล่นฟุตบอลมาก และเริ่มเล่นมาตั้งแต่อายุ 5-6 ขวบ ในการเข้าร่วม PTTGC Football Clinic ได้เรียนเรื่องการเดาะบอล เลี้ยงบอล รับส่งบอล การยิง โดยการเป็นนักฟุตบอลเก่ง ๆ ต้องมีระเบียบวินัย ต้องฝึกซ้อม ทุกวันนี้ เอดีและเจอาร์ ฝึกซ้อม 5 วันจันทร์-ศุกร์ หลังเลิกเรียนวันละ 2 ชั่วโมง การเล่นบอลเล่นแล้วสนุกและทำให้มีเพื่อนใหม่ เวลาไปแข่งฟุตบอลอยากชนะ แต่ถ้าแพ้ก็ไม่เป็นไร เอาใหม่ได้ สำหรับนักเตะที่ชื่นชอบนั้น ทั้ง 2 พี่น้องชอบโรนัลโด เมสซี เนยมา ส่วนถ้านักเตะไทย มีทั้ง อุ้ม ธีราทร มุ้ย ธีรศิลป์ ป๊อป กีรติ และอมาดู หัวหอกพีทีที ระยอง
ฟุตบอลไม่ใช่กีฬาสำหรับผู้ชายเท่านั้น เด็กผู้หญิงก็เล่นได้ อย่าง "น้องอุ้งอิ้ง" อฐิติยา กาศเรือนแก้ว วัย 6 ขวบ ที่มาร่วมฝึกทักษะฟุตบอลในครั้งนี้ บอกว่าฟุตบอลไม่ใช่กีฬาของผู้ชาย อุ้งอิ้งไม่ชอบเรียนเต้นรำ ร้องเพลง เล่นตุ๊กตา แต่ชอบเล่นฟุตบอลเพราะสนุก อุ้งอิ้งชอบวิ่งในสนามโดยไม่รู้สึกเหนื่อย ปัจจุบันอุ้งอิ้งอยู่ U 8 ทำหน้าที่เป็นกองหลัง แต่อุ้งอิ้งบอกว่าชอบเตะลูกเข้าประตูมากกว่า ทุกเย็นหลังเลิกเรียน อุ้งอิ้งก็ไปร่วมฝึกทักษะฟุตบอลที่สนามพร้อมพี่ชายที่อยู่ U10 อุ้งอิ้งบอกว่า อยากเล่นฟุตบอลและฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆ ให้เก่ง เพราะอยู่บ้านก็เล่นแต่เกม โตขึ้นไป อุ้งอิ้งอยากเป็นคุณหมอ และการเล่นบอลก็ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง
ด้วยความทุ่มเทและลีลาในการเตะฟุตบอลของเยาวชนไทยทั้งรุ่นเล็กมาก รุ่นเล็ก และรุ่นกลาง ท่ามกลางอากาศร้อน ทำให้โค้ชผู้ฝึกสอนพีทีที ระยอง อะคาเดมี และผู้เข้าร่วมงานต่างประทับใจและคาดหวังว่า กิจกรรมนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพของเยาวชน และเสริมสร้างความมุ่งมั่นในกีฬาฟุตบอลต่อไปในอนาคต