นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) (AECS) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในเดือนพฤษภาคมมีโอกาสปรับฐานลง โดยคาดว่ากรอบการเคลื่อนไหวดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 1,340-1,440 จุด เนื่องจากแรงซื้อสะสมของนักลงทุนต่างประเทศลดลง 9,000 ล้านบาท จากระดับสูงสุด 3.75 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 24%
"จากการวิเคราะห์แรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.59 Foreign Cost มีการปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 1,350 จุดมาอยู่ที่ 1,380 จุด แต่ในปัจจุบัน พบว่ายอดซื้อสะสมสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศมีการปรับลด 9 พันล้านบาท" นายเกรียงไกรกล่าว
ขณะที่ทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ส่งสัญญาณปรับตัวลดลง โดยเฉพาะในประเทศมาเลเซียซึ่งมีความกังวลเรื่องของการ Default ตราสารหนี้ ในขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (ทองคำและราคาน้ำมัน) ยังมีความแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องของการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อแนวโน้มการลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยเราจับตาเรื่องตัวเลขภาคการผลิตและทุนสำรองของจีนในช่วงครึ่งแรกของเดือนพ.ค. ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจไทยจะมีการประกาศ GDP 1Q16 และตัวเลขการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของเดือน
"ท่ามกลางความเสี่ยงตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น เราเลือกหุ้น 4 บริษัทที่เป็นตัวบอกความเข้มแข็งของตลาดหุ้นไทย ได้แก่ KTC-LPH- BEM- MAJOR ซึ่งเป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นและเป็นหุ้นกลุ่มแรกที่เราจะเลือกซื้อกลับเมื่อตลาดปรับฐาน" นายเกรียงไกรกล่าวในที่สุด