แอลจีเผยผลประกอบการในไตรมาสแรก ปี 2559 ด้วยผลกำไรในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและทีวีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ผ่านกลยุทธ์เจาะตลาดกลุ่มพรีเมี่ยม

พุธ ๑๑ พฤษภาคม ๒๐๑๖ ๑๑:๒๘
เมื่อเร็วๆ นี้ แอลจี อีเลคทรอนิคส์ อิงค์ (แอลจี) เผยผลประกอบการจากการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2559 ด้วยผลกำไรสูงสุดถึง 420.25 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท) เติบโตขึ้น 65.5% หรือ 11.12 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.96 แสนล้านบาท) จากช่วงเวลาเดียวกับของปี 2558

ทั้งนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญผลักดันให้ผลประกอบการในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2558 มาจากผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศที่สร้างยอดขายได้สูงถึง 339.23 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.21 หมื่นล้านบาท) และกลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ อยู่ที่ 278.84 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9.93 พันล้านบาท) ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือมีผลประกอบการขาดทุนประมาณ 168.20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5.99 พันล้านบาท) ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นของสมาร์ทโฟน LG G5 เช่นเดียวกับ กลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ที่ขาดทุนประมาณ 13.14 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 468 ล้านบาท) เนื่องจากการลงทุนที่สูงขึ้นในส่วนของการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้แก่กลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม แอลจีคาดการณ์ว่ายอดขายและผลกำไรของบริษัทฯ จะเติบโตเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2 ด้วยอัตราการเติบโตที่ตัวเลข 2 หลัก เนื่องจากแอลจียังเดินหน้ารุกตลาดกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยมอย่างต่อเนื่อง ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมแบรนด์ ในกลุ่ม LG Signature, สมาร์ทโฟน LG G5 และ ทีวี 4K Ultra HD OLED

สำหรับยอดขายของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศในไตรมาสที่ 1 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 4% อยู่ที่ประมาณ 3.51 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.25 แสนล้านบาท) เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2558 เป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์เกรดพรีเมี่ยม และการเติบโตที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มตลาดธุรกิจ B2B คิดเป็นกำไรสุทธิที่สูงถึง 9.7% ซึ่งนับว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยในประเทศเกาหลีใต้ มีผลประกอบการที่เพิ่มสูงขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา เนื่องจากกระแสความนิยม และผลประกอบการอันยอดเยี่ยม ของเครื่องซักผ้า TWIN Wash, ตู้เย็นเกรดพรีเมี่ยม, และกลุ่มเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ สำหรับกลุ่มประเทศในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปยังคงมีผลประกอบการที่ดี ในขณะที่ประเทศในกลุ่มทวีปตะวันออกกลาง, อเมริกาใต้ และเครือรัฐเอกราช (CIS) มียอดขายลดลง เนื่องจากอัตราค่าน้ำมันที่ต่ำลง รวมถึงความผันผวนของอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ มีผลประกอบการอยู่ที่ประมาณ 2.46 พันล้านสหรัฐ (ประมาณ 8.76 หมื่นล้านบาท) ลดลง 15.55% จากไตรมาสที่ 1/2558 นอกจากนี้การส่งออกโทรศัทพ์มือถือไปยังประเทศต่างๆ อยู่ที่ประมาณ 13.5 ล้านเครื่อง ลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุหลักมาจากความซบเซาของภาคธุรกิจ และความต้องการที่ลดลงของสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสการตอบรับเป็นอย่างดีของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด LG G5 ทั้งนี้ตลาดสมาร์ทโฟนจะยังคงแข่งขันรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาของสมาร์ทโฟนจะลดต่ำลง ซึ่งทางบริษัทฯ ได้เตรียมแผนการรับมือด้วยการผลักดันสมาร์ทโฟนLG G5 และเปิดตัวผลิตภัณฑ์โทรศัทพ์มือถือรุ่นใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ อย่าง X series ออกสู่ตลาดโลกมากขึ้น

กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ มีผลประกอบการอยู่ที่ประมาณ 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.28 แสนล้านบาท) ลดลง 2.3% จากไตรมาสที่ 1/2558 เนื่องจากการส่งออกทีวีที่ลดลงในกลุ่มประเทศแถบอเมริกาเหนือและทวีปยุโรปซึ่งนับเป็นตลาดสำคัญของการส่งออก อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการสุทธิ ประมาณ 7.7% เป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มจากขึ้นประมาณ 207% จากช่วงเวลาเดียวกันปี 2558 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของผู้บริโภคที่มีต่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ทีวี OLED และ 4K OLED แอลจีคาดว่าการปรับโครงสร้างราคาและต้นทุนจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้ยอดขายในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย

สำหรับยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ มีผลกระกอบการอยู่ที่ประมาณ 493.2 ล้านเหรียณสหรัฐ (ประมาณ 1.76 หมื่นล้านบาท) ถึงแม้ภาพรวมกำไรจะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มการลงทุนในการคิดค้นและพัฒนา แต่กลับมียอดขายที่เพิ่มขึ้น 55% จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2558 จากการเติบโตของธุรกิจกลุ่มอินโฟเทนเมนต์ในรถยนต์ ซึ่งแอลจีเชื่อมั่นว่าภาพรวมของธุรกิจนี้ของแอลจีจะสดใส และกลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์จะสามารถเติบโตได้ดี รวมถึงสามารถขยายออกไปสู่ตลาดทั่วโลกได้อย่างแน่นอน

ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในไตรมาสที่ 1 ของปี 2559

รายได้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบด้านบัญชีประจำไตรมาสของแอลจี อีเลคทรอนิคส์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ IFRS (International Financial Reporting Standards) สำหรับช่วงเวลาสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐจะเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของสามเดือนในไตรมาสเดียวกัน โดยอัตราแลกเปลี่ยน ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2559 อยู่ที่ 35.6 บาท ต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯ (ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของธนาคารแห่งประเทศไทย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version