นายดนุชา วีระพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ECL กล่าวถึงแผนการดำเนินงานเพื่อเปิดเกมรุกในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ว่า หลังจากที่ PFS ได้จับมือ กับ ECL ในการเข้ามาศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในประเทศไทย เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2557 ที่ผ่านมา และก็ได้มีความคืบหน้าของการทำงานร่วมกันมาโดยตลอด จนถึงขณะนี้ ทั้ง 2 บริษัทฯ มีความพร้อมที่เปิดเกมรุกเพื่อใช้พื้นฐานความแข็งแกร่งของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อขยายตลาดดังกล่าวในประเทศไทย
โดยแผนการดำเนินการจากนี้ ทางบริษัทได้รับการอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1.095 พันล้านบาท จากเดิมที่ 892.16 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ PFS เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วนไม่เกิน 25.50% เบื้องต้นเมื่อบริษัทได้รับเงินชำระค่าหุ้นจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้แล้ว และจะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อบริษัทมีการขยายการดำเนินธุรกิจการให้สินเชื่อรถยนต์มือสอง การให้สินเชื่อประเภทอื่นที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่ รวมถึงการขยายธุรกิจเพิ่มเติมในด้านการรับประกันชิ้นส่วนรถยนต์ (Extended warranty) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ PFS มีความเชี่ยวชาญ และการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งบริษัทจะทยอยเบิกใช้เงินจากสถาบันการเงินในลำดับต่อไป ตามขนาดธุรกิจที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจด้านการให้สินเชื่อสำหรับรถยนต์ให้กับตลาดรถยนต์ใหม่ และรถยนต์มือสอง ที่พร้อมด้วยประสบการณ์และทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพ รวมถึงมีการขยายเครือข่ายที่กว้างขวางและเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมากว่า 12 ปี จนกระทั่งเมื่อช่วงปี 2557 ที่ผ่านมา ECL จึงได้เริ่มต้นในความร่วมมือทางธุรกิจกับ PFS โดยเบื้องต้นเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ความชำนาญด้านการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง การสนับสนุนการร่วมมือทางธุรกิจและการพัฒนาธุรกิจเพื่อให้เกิดความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และการสนับสนุนในการพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอาทิ ด้านประกันภัยเกี่ยวกับรถยนต์เป็นต้น
ทางด้านแนวทางการบุกตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์นับจากนี้ไป ทางบริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ธุรกิจนี้กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ จากเดิมที่การขยายตัวในธุรกิจประเภทนี้จะอยู่ตามเต๊นท์รถมือสองโดยทั่วๆ ไป แต่นับจากนี้ จะมีการยกระดับและพัฒนาคุณภาพของคำว่า เต๊นท์รถ มือสอง ไปสู่การสร้างแบรนด์ของกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์มือสอง(Modern trade) ให้มีความน่าเชือถือด้วยการเพิ่มคุณค่าของการทำการตลาดเข้าไป ซึ่งทาง PFS มีความชำนาญในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่น และก็เชื่อว่า จากการเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เกิดขึ้นจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในตลาดนี้ได้อย่างแน่นอน
"ผลจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันได้ชะลอตัวลง หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้น และไฟแนนซ์ยังเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อีกด้วย อีกทั้งยังมีในเรื่องของภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ที่ทำให้ราคารถป้ายแดงเพิ่มขึ้น 5-10 % ส่งผลกระทบต่อผู้ที่กำลังคิดจะซื้อรถยนต์ใหม่ ทำให้ที่ผ่านมารถยนต์มือหนึ่งมียอดขายลดลงอย่างมาก แต่ด้านยอดขายรถยนต์มือสอง กลับมีการขยายตัวที่ดีขึ้น อีกทั้งราคากลับมาสมดุลกับสถานการณ์ปัจจุบัน ดังนั้น แนวโน้มปีนี้ยอดขายรถยนต์มือสอง จึงมีโอกาสขยายตัว 20% หรือมียอดขาย 2 ล้านคัน ซึ่งตรงนี้ คือ โอกาสของเรา" นายดนุชา กล่าว
ทั้งนี้ จากการเล็งเห็นโอกาสในการทำธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่า การเปิดเกมรุกในธุรกิจครั้งนี้ จะทำให้ ECL ครองส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 20% ภายในระยะเวลา 3 ปี และจะทำให้บริษัท ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ และด้วยศักยภาพของ PFS บริษัทอาจจะมีแผนการขยายการธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอนาคตอีกด้วย และการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับ PFS นั้น ยังจะช่วยขยายฐานลูกค้าสินเชื่อรถยนต์มือสอง และพัฒนาธุรกิจการรับประกัน (การรับประกันชิ้นส่วนรถยนต์) และธุรกิจใหม่อื่นๆ อันจะมีส่วนช่วยให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตต่อไปในอนาคต
ทางด้าน นายโยอิจิ ชิบาตะ (Mr. Yohichi Shibata) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมี่ยมไฟแนนซ์เชียล เซอร์วิส จำกัด หรือ PFS กล่าวว่า การที่ PFS ซื้อหุ้นเพื่อเพิ่มทุนกับ ECL จากเดิม 25% เป็น 25.50% เพราะเห็นถึงศักยภาพเติบโตได้ดีของธุรกิจรถยนต์มือสองที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศไทย และปัจจุบัน ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของตลาด AEC บริษัทจึงเล็งเห็นถึงโอกาสที่ดีในการเติบโต และการขยายตัวของตลาดรถมือ 2 ซึ่งบริษัทเองได้มีการนำระบบการซื้อขายแบบโมเดิร์นเทรด คือมีบริการให้ Warranty (วอรันตี) หรือการรับประกัน ซึ่งบริการนี้มีในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งเป็นการยกระดับการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองให้ดีขึ้น และถือเป็นการเรียกความน่าเชื่อถือให้กับคนที่กำลังจะซื้อรถยนต์มือสอง เพราะคนทั่วไปมองว่าการวารันตีจะใช้กับรถยนต์มือหนึ่งเท่านั้น
สำหรับบริษัท พรีเมี่ยมไฟแนนซ์เชียล เซอร์วิส จำกัด ได้จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นในญี่ปุ่น ดำเนินธุรกิจด้านการให้สินเชื่อรถยนต์และการรับประกันชิ้นส่วนรถยนต์มือสอง โดยผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายจำนวน 30,100 รายทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 10% ในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ที่เป็นลักษณะ โมเดิร์น เทรด