นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ (ASN) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มธุรกิจการเงิน ในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ โดย ASN ดำเนินธุรกิจเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยเน้นการขายประกันภัยรถยนต์เป็นหลัก และมีบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจเป็นนายหน้าประกันชีวิต โดยขายประกันภัยผ่านช่องทางโทรศัพท์ (Telemarketing) ณ สิ้นปี 2558 บริษัทและบริษัทย่อยมีพนักงานขายประกันซึ่งได้รับใบอนุญาตจำนวน 148 คน และ 30 คน ตามลำดับ บริษัทมีคู่ค้าเป็นบริษัทประกันวินาศภัยชั้นนำจำนวน 16 ราย และประกันชีวิตชั้นนำจำนวน 2 ราย นอกจากนี้ ASN ยังเป็นบริษัทแรกที่ดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai
ASN มีทุนชำระแล้ว 65 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 100 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 30 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 27-29 เมษายน 2559 ในราคาหุ้นละ 6.00 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 180 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 780 ล้านบาท มีบริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายนายธวัชชัย เลิศรุ่งเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ (ASN) เปิดเผยว่า สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบฐานข้อมูล และระบบ e-commerce เพิ่มช่องทางในการจำหน่าย และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ รวมถึงลงทุนในการขยายจำนวน Seat ของพนักงานขายประกันทางโทรศัพท์ซึ่งเป็นช่องทางการขายหลักให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในอนาคต สำหรับเงินระดมทุนส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการเติบโตและเพิ่มศักยภาพการขยายธุรกิจในอนาคต
ASN มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวเลิศรุ่งเรือง ถือหุ้น 61.53% นางสาววรรณชนก วารุณประภา ถือหุ้น 15.39% และกลุ่มครอบครัวอนุรักษ์วงศ์ศรี ถือหุ้น 3.04% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 31.68 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง (ไตรมาส 1- 4 ปี 2558) ซึ่งเท่ากับ 24.62 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.19 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลของงบการเงินเฉพาะของบริษัท และหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสะสมอื่นๆ ตามที่บริษัทกำหนด
รายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่www.asnbroker.co.th และที่เว็บไซต์ www.set.or.th