CK ปิดดีลงานเพิ่มไซยะบุรี มั่นใจสร้างเสร็จตามแผน พร้อมจ่ายไฟ ปี 2562

อังคาร ๑๗ พฤษภาคม ๒๐๑๖ ๑๕:๔๕
ดร.สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลลาวได้ขอให้ บริษัทไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) ผู้รับสัมปทานและดำเนินโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ลงทุนดำเนินการก่อสร้างเพิ่มเติม เพื่อดูแลด้านสิ่งแวดล้อมตามความต้องการของคณะกรรมาธิการลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อให้โครงการนี้เป็นโครงการตัวอย่างที่เป็นเลิศบนแม่น้ำโขง (Excellent Project) อาทิเช่น การป้องกันแผ่นดินไหว ทางเรือผ่าน (Navigation Lock) ทางปลาผ่าน (Fish Passage) รวมถึงระบบระบายตะกอน (Sediment Flushing System) XPCL ได้ตกลงว่าจ้าง CK ดำเนินงานก่อสร้างเพิ่มเติม หรือ Variation Order มูลค่าประมาณ 19,000 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อย โดยในส่วนของการลงทุนเพิ่มเติมนี้ รัฐบาลลาวจะขยายระยะเวลาสัญญาสัมปทานและให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมต่างๆให้แก่ XPCL ซึ่งจะทำให้โครงการนี้มีผลตอบแทนการลงทุนที่ดี เหมาะสมเช่นเดิม

"ขณะนี้การลงนามสัญญางานเพิ่มเติม หรือ Variation Order ได้ข้อสรุปหมดแล้ว เหลือเพียงงานด้านเอกสารเล็กน้อย คาดว่าจะลงนามได้ในไตรมาสที่ 2 นี้ ซึ่งจะทำให้ CK มีรายได้ก่อสร้างเพิ่ม อีกกว่า 19,000 ล้านบาท โดย CK ได้เร่งดำเนินการก่อสร้างงานเพิ่มเติมไปก่อนแล้ว เพื่อให้โครงการนี้แล้วเสร็จ และสามารถจ่ายไฟได้ตามกำหนด (Commercial Operation Date - COD) ในปี 2562 อย่างแน่นอน

CK ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (CKP) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ XPCL พร้อมกลุ่มผู้ถือหุ้นหลักอื่นๆ พร้อมให้การสนับสนุนทางการเงิน (Sponsor Loan) แก่ XPCL อย่างเต็มที่ เพื่อลงทุนและก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผน โดยมั่นใจว่าโครงการไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าสะอาดและต้นทุนต่ำสำหรับไทยและลาว ที่ดูแลด้านสิ่งแวดล้อมอย่างดี สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงและสม่ำเสมอให้แก่ XPCL และผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

สำหรับผลการดำเนินงาน งวดสามเดือนสิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2559 เป็นไปตามที่คาดหมายไว้ โดยบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 305 ล้านบาท รายได้ก่อสร้าง 8,982 ล้านบาท บริษัทมี Backlog กว่า 77,000 ล้านบาท โดยงานในมือที่มีในปัจจุบันมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 8.71% โครงการก่อสร้างทุกๆโครงการคืบหน้าเป็นไปตามแผน โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญา4 และโครงการทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร จะสามารถเปิดให้ประชาชนใช้บริการได้ ในเดือนสิงหาคมปีนี้อย่างแน่นอน และในปี 2559 CK ก็พร้อมที่เข้าร่วมประกวดราคาโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลหลายโครงการ เช่น โครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส2 ที่ได้เปิดขายซองไปแล้ว กำหนดประกวดราคาในเดือนมิถุนายน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี มูลค่า 79,818 ล้านบาท ที่คาดว่าจะเริ่มเปิดขายซองได้ในเดือน มิถุนายน 2559 โครงการมอเตอร์เวย์และรถไฟรางคู่อีกหลายสาย โดยคาดว่าจะได้ส่วนแบ่งงานก่อสร้างกว่า 20-25% ของงานทั้งหมดที่จะออกมา มั่นใจว่า CK มีประสบการณ์และศักยภาพพร้อมทุกด้าน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ