นางปัทมา วงษ์ถ้วยทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) หรือ SOLAR เปิดเผยว่าบริษัทฯ ยังคงมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การบริหารงานโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ประกอบกับทีมผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ ทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต จึงอยากขอให้นักลงทุนอย่าตกใจเทขายหุ้นออกมา
เนื่องจากในอนาคตบริษัทฯ ยังมีงานที่จะได้รับเพิ่มเติมอีกหลายโครงการ อาทิเช่น งานติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ให้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 3 เฟส เฟสละ 7 เมกะวัตต์ โดยทำปีนี้ 7 เมกกะวัตต์(มูลค่าประมาณ 350 ล้านบาท) และจะทำต่อเนื่องในปีหน้าอีก 14 เมกกะวัตต์ โดยปัจจุบันได้รับการอนุมัติในเบื้องต้นแล้วและขณะนี้รอการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการคาดว่าจะเซ็นสัญญาภายในเดือนกรกฎาคม หากมีความคืบหน้าจะรีบแจ้งให้ทราบในทันที
นอกจากนี้ที่ผ่านมายังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในต่างประเทศคือ REC Solar Pte.Ltdประเทศสิงคโปร์ สั่งซื้อโซลาร์เซลล์ จำนวน 60เมกะวัตต์ต่อปี มูลค่า 22.80 USD หรือประมาณ 800 ล้านบาท โดยเริ่มส่งมอบสินค้าดังกล่าวแล้วตั้งแต่ไตรมาส 1/2559 ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังจับสลากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานภาคการเกษตร (โซลาร์ฟาร์มสหกรณ์) จำนวน 3โครงการ จำนวนรวม 9 เมกะวัตต์ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท และโครงการ backlog ต่างๆ ที่เซ็นสัญญาในปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
"SOLAR มีโรงงานผลิตแผ่นและแผงเซลล์แสงอาทิตย์เป็นของตัวเอง เป็นบริษัทที่มีโพเทนเชียล มีรายได้ที่มั่นคงแน่นอน นอกจากนี้ทีมผู้บริหารยังตั้งใจทำงานด้วยความมุ่งมั่น เพื่อให้ผลประกอบการออกมาดีและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน" นางปัทมา กล่าวในที่สุด
อย่างไรก็ตามแม้ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2559 ของบริษัทฯ ในส่วนของรายได้จากการขายพร้อมติดตั้ง(EPC) จะออกมาขาดทุนเนื่องจากราคากลางของราชการยังเป็นฐานเดิมแต่ในปี Q2/2559 เป็นต้นไป ราคากลางจะปรับฐานตามมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย จึงมั่นใจว่าผลประกอบการไตรมาส 2/2559 จะดีกว่าไตรมาส 1/2559