"วันนี้โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ได้ขยายขอบเขตการส่งเสริมโภชนาการให้ครอบคลุมไปยังโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่ดูแลทั้งนักเรียนไป-กลับ และนักเรียนประจำที่กินอยู่กับโรงเรียน สำหรับนักเรียนประจำทางโรงเรียนต้องดูแลอาหารทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น รวมเป็น 3 มื้อ ทางโครงการฯ จึงมองว่าการเข้าไปมอบแม่ไก่ให้เพิ่มขึ้น จะทำให้นักเรียนได้บริโภคไข่ไก่ได้เพียงพอกับความต้องการของแต่ละโรงเรียน นับเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดภาระของทางโรงเรียน ทั้งยังช่วยส่งเสริมให้นักเรียนได้บริโภคอาหารที่มีคุณประโยชน์ทั้ง 3 มื้อ ซึ่งที่โครงการฯ เข้าไปสนับสนุนส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนในสังกัดตำรวจตระเวนชายแดน โดยโรงเรียนขนาดเล็กจะเพิ่มจำนวนแม่ไก่จาก 100 ตัว เป็น 200 ตัว, โรงเรียนขนาดกลาง จะเพิ่มแม่ไก่จาก 200 ตัว เป็น 300 ตัว และโรงเรียนขนาดใหญ่เพิ่มจำนวนแม่ไก่เป็น 500 ตัว" นายสุปรี กล่าวเสริม
สำหรับโรงเรียนที่สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ กระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ และโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ที่เปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษา-มัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ต้องดูแลนักเรียนประจำ ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ ดังนั้นทางโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ จึงพิจารณาเพิ่มจำนวนแม่ไก่เป็น 500 ตัว เพื่อให้สามารถผลิตไข่ไก่ให้นักเรียนได้บริโภคกันอย่างเพียงพอ
นอกจากนี้โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ยังได้เข้าไปส่งเสริมโภชนาการให้นักเรียนในถิ่นทุรกันดารโดยเข้าไปสนับสนุนศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านภุด่านกอย อ. ปทุมราชวงศา จ. อำนาจเจริญ และศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านปากห้วยม่วง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ซึ่งมีนักเรียนเพียงแห่งละ 20-30 คน โดยศูนย์เหล่านี้จะพัฒนาให้เป็นโรงเรียนในอนาคต รวมถึงเข้าไปส่งเสริมการเลี้ยงไก่ไข่ในโรงเรียนที่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ชายแดน อาทิ ศูนย์การเรียนรู้อาโอนยู อ.แม่สอด จ. ตาก โดยโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ อาทิ มูลนิธิช่วยไร้พรมแดน (Help Without Frontiers Thailand Foundation) เข้าไปดูแลเด็กและเยาวชนที่อาศัยบริเวณชายแดนไทยและพม่า ให้เข้าถึงและบริโภคไข่ไก่ซึ่งเป็นอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ทั้งยังเป็นการสร้างแหล่งอาหารในชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย
"จากการสำรวจพบว่า นักเรียนระดับประถมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มีภาวะทุพโภชนาการ 16.5% ทางโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ จึงตั้งเป้าลดภาวะทุพโภชนาการในเด็กนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ลง 5-6% ให้มาอยู่ที่ 10%" นายสุปรี กล่าวทิ้งท้าย
นายอุทัย มูลเมืองคำ ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านสันกอง อ. แม่จัน จ.เชียงราย กล่าวว่า ที่โรงเรียนมีนักเรียน 435 คน เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล- ประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมีนักเรียนประจำกินนอนจำนวน 10 คน ศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษา พ่อแม่ของนักเรียนส่วนมากเป็นชนเผ่าอาข่าที่มีรายได้น้อย จึงรับประทานข้าวกับพริกป่น และผัก เป็นประจำ ทำให้เด็กที่มาเข้าเรียนใหม่ส่วนใหญ่ประสบภาวะทุพโภชนาการผอม อย่างไรก็ตามปัจจุบัน โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ได้เข้ามาสนับสนุนไก่เพิ่มจาก 200 ตัว เป็น 300 ตัว ทำให้สามารถผลิตไข่ได้เฉลี่ย 245 ฟองต่อวัน โดยโรงเรียนจะนำไข่ที่ได้เข้าโครงการอาหารกลางวัน นอกจากนี้ที่โรงเรียนยังมีการเลี้ยงปลาดุกในกระชัง ทำให้นักเรียนได้รับประทานโปรตีนครบทุกวันทั้งไข่ไก่และปลาดุกสลับหมุนเวียนกันไป ทำให้เด็กมีภาวะโภชนาการที่ดีขึ้น
สำหรับโรงเรียนที่สนใจเข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน สามารถติดต่อขอข้อมูลรายละเอียดโครงการได้ที่ มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทฯ 313 อาคารซีพีทาวเวอร์ ชั้น 25 ถนนสีลม โทรศัพท์ 0-2698-2727 โทรสาร 0-2638-2716 หรือดาวน์โหลดเอกสารการรับสมัคร หลักเกณฑ์ และหลักการที่เว็บไซต์www.rurallives.org./