พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าปัจจุบันภาคการขนส่งเป็นภาคส่วนที่มีสัดส่วนการใช้พลังงานสูงถึง ร้อยละ 36.8 ของการใช้พลังงานทั้งประเทศ โดยคิดเป็นพลังงานเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขนส่งทางบกถึงร้อยละ 79 ของการใช้พลังงานในภาคขนส่ง และด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน การแข่งขัน และราคาพลังงาน จึงส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในการแบกรับภาระต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นและส่งผลให้ขีดความสามารถการแข่งขันทางธุรกิจลดลง กระทรวงพลังงานได้จัดทำแผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2558 – 2579 (Energy Efficiency plan : EEP2015) เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายหลักคือ การลดความเข้มของการใช้พลังงาน(Energy Intensity: EI) ลงร้อยละ 30 ในปี พ.ศ.2579 เมื่อเทียบกับปี 2553 ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการประชุม COP21 ที่ประเทศไทยได้เสนอเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก ในปี พ.ศ.2563 โดยจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคขนส่ง และภาคพลังงานให้ได้ 25% โดยมาตรการสำหรับภาคขนส่งนั้นถือเป็นมาตรการหลัก ที่มีศักยภาพสูงที่จะช่วยประเทศชาติลดการใช้พลังงานลงได้
"สำหรับมาตรการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคขนส่งนั้น แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มแรก เป็นการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ประสิทธิภาพสูงด้วยมาตฐาน และการติดฉลาก มีเป้าหมายการประหยัดพลังงาน 14,200 ktoe กลุ่มที่ 2 เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มีเป้าหมายการประหยัดพลังงาน 11,324 ktoe และกลุ่มสุดท้าย เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในรถบรรทุก และรถโดยสาร ด้วยระบบการจัดการและการจูงใจทางการเงิน มีเป้าหมายการประหยัดพลังงาน 5,139 ktoe โดยมาตรการทั้ง 3 กลุ่มดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้ภาคขนส่งสามารถลดการใช้พลังงานลงได้ โดยจะส่งผลทั้งทางตรง และทางอ้อมแก่ผู้ใช้รถยนต์ทุกกลุ่ม แต่สำหรับผู้ประกอบการขนส่งที่ใช้รถบรรทุกนั้น มาตรการในกลุ่มที่ 3 จะมีส่วนส่งเสริมและสนับสนุนโดยตรงให้ผู้ประกอบการมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านกลไกการสนับสนุนต่างๆ โดยงานสัมมนาโครงการสาธิตระบบบริหารจัดการพลังงานในภาคขนส่ง ถือเป็นโครงการหลักที่สอดคล้องกับแผนอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถลดการใช้พลังงานนับว่าเป็นการลดต้นทุน และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจให้ดีขึ้นได้" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าวัตถุประสงค์การจัดงานสัมมนาโครงการสาธิตระบบบริหารจัดการพลังงานในภาคขนส่ง เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มผู้ประกอบการสามารถประยุกต์ใช้และพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้อุปกรณ์หรือเทคโนโลยี รวมถึงการอบรมให้ความรู้และพัฒนาบุคลากรด้านการขับขี่เพื่อการประหยัดพลังงาน และส่งเสริมกลไกบริษัทจัดการพลังงาน (Energy Service Company, ESCO) เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ ซึ่งถือเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยผู้ประกอบการ จากสภาวะทางด้านเศรษฐกิจ ด้านพลังงานทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้ โดยมุ่งเน้นเพื่อส่งเสริมให้ได้รับการสนับสนุนด้านต่างๆ โดยสามารถแบ่งกิจกรรม ออกเป็น 4 กิจกรรมดังนี้
· กิจกรรมที่ 1 กิจกรรมการส่งเสริมระบบบริหารจัดการพลังงานในภาคขนส่ง ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบบริหารจัดการพลังงานในภาคการขนส่ง และเผยแพร่ให้กับผู้ประกอบการ นำไปประยุกต์ใช้เพื่อบริหารจัดการการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพได้อย่างเป็นระบบ โดยดำเนินการร่วมกับการให้คำแนะนำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ
· กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมการส่งเสริมเงินสนับสนุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงาน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการประยุกต์ใช้อุปกรณ์หรือเทคโนโลยีประหยัดพลังงานในภาคขนส่งเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โดยโครงการจะให้การสนับสนุนเงินทุนตามผลการประหยัดพลังงานที่ได้จากการดำเนินมาตรการอนุรักษ์พลังงาน
· กิจกรรมที่ 3 กิจกรรมการส่งเสริมการขับขี่ยานพาหนะเพื่อการประหยัดพลังงาน เป็นการอบรมให้ความรู้แก่พนักงานขับรถบรรทุกในด้านการขับขี่ยานพาหนะเพื่อการประหยัดพลังงาน เพื่อพัฒนาบุคลากรในภาคขนส่งให้ร่วมกันประหยัดพลังงาน โดยดำเนินการอบรมตามภูมิภาคต่างๆ 4 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้
· กิจกรรมที่ 4 กิจกรรมการส่งเสริมธุรกิจบริษัทจัดการพลังงานในภาคขนส่ง (Logistics ESCO) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมกิจกรรมการอนุรักษ์พลังงานผ่านกลไกของธุรกิจบริษัทจัดการพลังงานในภาคขนส่ง หรือ Logistics ESCO เพื่อเป็นทางเลือกในการดำเนินกิจกรรมการอนุรักษ์พลังงานให้กับผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ การดำเนินกิจกรรมทั้ง 4 กิจกรรม ภายใต้โครงการสาธิตระบบบริหารจัดการพลังงานในภาคขนส่ง จะส่งผลให้สามารถลดการใช้พลังงานในภาคขนส่งได้อย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับแผน EEP2015 ของกระทรวงพลังงาน และขยายผลให้เกิดการใช้พลังงานในภาคขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่
นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยในฐานะผู้จัดงานสัมมนาเปิดโครงการสาธิตระบบบริหารจัดการพลังงานในภาคขนส่ง ในครั้งนี้ว่าได้เชิญชวนผู้ประกอบการ เข้าร่วมโครงการสาธิตระบบบริหารจัดการพลังงานในภาคขนส่ง โดยมุ่งเน้นส่งเสริมให้สามารถลดการใช้พลังงานได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงได้มีการจัดเสวนาประเด็นต่างๆในงานที่น่าสนใจ อาทิ การนำเสนอรายละเอียดระบบบริหารจัดการพลังงานในภาคขนส่ง ประเด็นการส่งเสริมประสิทธิภาพการขนส่งเชิงนโยบาย การบริหารจัดการขนส่งอย่างไรเพื่อการประหยัดพลังงาน และ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อการประหยัดพลังงานในภาคขนส่ง เป็นต้น นอกจากนี้ ภายในงานยังมีบูธเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงานในภาคขนส่งจากผู้ประกอบการมากมายอาทิ บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ ยาง GPS และโรงเรียนสอนการขับขี่รถบรรทุก ซึ่งคาดว่าผู้ที่มาเข้าร่วมงานนี้จะได้รับประโยชน์และรายละเอียดสำหรับการประหยัดพลังงานในภาคขนส่งอย่างครบถ้วน โดยโครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) โดยกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการรวมพลังของทุกภาคส่วนในครั้งนี้จะนำไปสู่การอนุรักษ์พลังงานในภาคขนส่งอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน