ไอพีพีเอสหนุนภาครัฐใช้ไอทีเต็มรูปแบบ เผยทิศทางตลาดอีเพย์เมนต์เติบโตสูงขึ้น

อังคาร ๒๔ พฤษภาคม ๒๐๑๖ ๑๖:๔๑
ไอพีพีเอสเผยทิศทางตลาดอีเพย์เมนต์กำลังไปได้สวย หลังรัฐบาลออกกฎหมายเพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและเปิดตลาดเสรีอาเซียน พร้อมตั้งเป้าหมายจะมีลูกค้าเพิ่มมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 2 ล้านราย และสร้างรายได้ประมาณ 350-450 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมียอดการใช้บริการผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ประมาณ 100,000-200,000ครั้งต่อวัน

ดร.กนกวรรณ ว่องวัฒนะสิน ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไอพี เพย์เมนท์ โซลูชั่น จำกัด หรือ IPPS เปิดเผยว่า จากการที่ภาครัฐสนับสนุนในการพัฒนามาตรฐานสมรรถนะสำหรับผู้ใช้ไอที ( Digital Literacy) เพื่อพัฒนาศักยภาพของกำลังคนในการรองรับเศรษฐกิจดิจิทัลนั้น คาดว่าจะทำให้ตลาดอีเพย์เมนต์เติบโตสูงขึ้น โดยไอพีพีเอสจะเน้นการทำตลาดไปที่โมบายเพย์เมนต์แอปพลิเคชัน ที่จะนำไปสู่กลุ่มการตลาดที่กว้างขึ้น ซึ่งประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่พร้อมอยู่แล้ว โดยเฉพาะการมาของ 4G จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถใช้ช่องทางดิจิตอลในการชำระเงินได้ง่ายขึ้น โดยปัจจุบันคนไทยนิยมใช้การชำระเงินผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งเป็นอันดับ 1 รองลงมา เป็นบัตรเครดิต และโมบายเพย์เมนต์ ตามลำดับ ส่วนในอนาคตคาดว่าการใช้งานโมบายเพย์เมนต์จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆโดยเฉพาะจากการที่มีการเปิดเสรีอาเซียนในปีนี้ ทำให้ตลาดแรงงานต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ทั้งแรงงานกัมพูชา เมียนมาร์ ลาว และเวียดนาม ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองไทย ทำให้รูปแบบของการโอนเงินระหว่างประเทศในรูปแบบอีเพย์เมนท์เป็นทางเลือกใหม่ ที่เหมาะสำหรับแรงงานที่ไม่มีบัญชีเงินฝากในประเทศไทย รวมไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในไทยด้วย

ขณะนี้ไอพีพีเอส มีการลงทุนวางระบบโครงสร้างพื้นฐานไปแล้วประมาณ 200 ล้านบาท และเตรียมใช้เงินลงทุนอีกประมาณ100 ล้านบาท ในช่วง 2 ปีนับจากนี้ ในการเพิ่มประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมไปถึงการวางระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลของผู้ใช้งาน โดยตั้งเป้าหมายจะมีลูกค้าเพิ่มมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 2 ล้านราย และสร้างรายได้ประมาณ 350-450 ล้านบาท และคาดว่าจะมียอดการใช้บริการผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ประมาณ 100,000-200,000 ครั้งต่อวัน และมีลูกค้าใช้บริการประมาณ 1 ล้านราย ผ่านธุรรมทางการเงินในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเติมเงินผ่านตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ, ATM , ธนาคาร, เคาน์เตอร์เซอร์วิส ,บิ๊กซี,เทสโก้โลตัส เป็นต้น

"ปัจจุบันมีโอเปอเรเตอร์ให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เป็นจำนวนมาก สำหรับกลยุทธ์ของไอพีพีเอส นั้นจะเข้าไปเจาะช่องทางที่คู่แข่งยังไม่ได้ไป โดยจะชูจุดเด่นตรงที่สามารถเติมเงินได้หลากหลายช่องทางกว่า เติมเงินขั้นต่ำได้ต่ำกว่า ที่สำคัญคือ ไอพีพีเอสเป็นผู้ให้บริการด้านนี้โดยตรง เป็นกลาง ทุกบริษัทสามารถเข้ามาใช้ระบบของไอพีพีเอสได้ และเป็นพันธมิตรได้กับผู้ประกอบการทุกราย โดยการแข่งขันทางตลาดของธุรกิจนี้ มีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง แต่จะไม่แข่งขันกันทางด้านค่าธรรมเนียม แต่จะอยู่ที่การแข่งขันกันทางด้านโปรโมชั่นมากกว่า" ดร.กนกวรรณ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ