เอ็มเอฟซีเปิดขายกองทุน MSI 19 ลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ รับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ทุก 3 เดือน ในอัตราเฉลี่ย 2.75%ต่อปี

พุธ ๒๕ พฤษภาคม ๒๐๑๖ ๑๓:๔๖
เอ็มเอฟซีเปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สเตเบิ้ล อินคัม ฟันด์ 19 (MSI 19) ลงทุนตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐและเอกชนทั้งในและนอกประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ รับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทุก 3 เดือนตลอดอายุโครงการประมาณ 3 ปี ในอัตราเฉลี่ย 2.75%ต่อปี เปิดขายครั้งเดียวตั้งแต่วันนี้-6 มิถุนายน 2559

นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็มเอฟซีเปิดขายกองทุนรวมที่ลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สเตเบิ้ล อินคัม ฟันด์ 19 (MSI 19) ลงทุนตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐและเอกชนทั้งในและนอกประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูลค่าโครงการ 1.000 ล้านบาท อายุประมาณ 3 ปี ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุก 3 เดือนเฉพาะผลตอบแทนในอัตราเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 2.75 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุนที่ตราไว้ (10 บาท) เมื่อกองทุนเปิด MSI 19 ครบอายุกองทุน บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมด และสับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรตลาดเงินหรือกองทุนเปิด MM-GOV เพื่อสนับสนุนการลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างต่อเนื่องต่อไป

กองทุนเปิด MSI 19 จะเน้นนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งชาติ พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ที่ออกโดยนิติบุคคลที่มีกฏหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารต่างประเทศ หรือตราสารหนี้เอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ซึ่งกองทุนเปิด MSI 19 จะลงทุนเพียงครั้งเดียว และถือทรัพย์สินไว้จนครบอายุของทรัพย์สินนั้น นอกจากนี้กองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินแบบเต็มจำนวน (Fully hedge) ทั้งนี้ ปัจจัยความเสี่ยงที่อาจมีผลต่อกองทุน ได้แก่ ความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ

กองทุนเปิด MSI 19 เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ และคาดหวังผลตอบแทนในระยะปานกลางถึงระยะยาว โดยสามารถลงทุนได้อย่างน้อยประมาณ 3 ปี และผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

ตัวอย่างตราสารที่จะลงทุนซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ BBB+ ได้แก่ หุ้นกู้ภาคเอกชนตัวที่ 1 ลงทุนร้อยละ 20 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.60 ต่อปี หุ้นกู้ภาคเอกชนตัวที่ 2 ลงทุนร้อยละ 15 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.53 ต่อปี หุ้นกู้ภาคเอกชนตัวที่ 3 ลงทุนร้อยละ 23.75 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.62 ต่อปี หุ้นกู้ภาคเอกชนตัวที่ 4 ลงทุนร้อยละ 23.75 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.62 ต่อปี หุ้นกู้ภาคเอกชนตัวที่ 5 ลงทุนร้อยละ 9.50 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.33 ต่อปี หุ้นกู้ภาคเอกชนตัวที่ 6 ลงทุนร้อยละ 5 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.16 ต่อปี และพันธบัตรรัฐบาลไทย ลงทุนร้อยละ 3 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.04 ต่อปี โดยกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารอื่นแทนหรือเพิ่มเติมซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ คือ ไม่ต่ำกว่า BBB-

ประมาณการผลตอบแทนจากการลงทุนของกองทุนเปิด MSI 19 ร้อยละ 2.90 ต่อปี ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุนร้อยละ 0.15 และประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายร้อยละ 2.75 ต่อปี หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป บริษัทจัดการอาจไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนตามอัตราดังกล่าว

สำหรับผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท โดยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงานของกองทุนหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 สาขาแจ้งวัฒนะ โทร.0-2835-3055-57 สาขาปิ่นเกล้า โทร. 0-2014-3150-2 สาขาขอนแก่น โทร.043-204-014 สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-288-955 สาขาภูเก็ต โทร.076-307-070 สาขาระยอง โทร. 038-942-960 และสาขาพิษณุโลก โทร. 055-008-980-2 หรือที่ www.mfcfund.com

.....................................................

- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

- ในกรณีที่ผู้ลงทุนต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ลงทุนสามารถขอหนังสือชี้ชวนส่วนข้อมูลโครงการได้ที่บริษัทจัดการกองทุนรวมหรือผู้สนับสนุน การขายหรือรับซื้อคืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๔๑ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๖:๓๙ คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๖:๐๘ พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๖:๐๑ BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๖:๒๘ บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๖:๐๖ PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๖:๔๖ CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๖:๒๕ ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ