นายไมเคิล เดรเย่อร์ รองประธาน บริษัทโคโลญ เมสเซ่ ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค จำกัด เปิดเผยว่า เรารู้สึกยินดีที่การแข่งขันสุดยอดเชฟไทยเติบโตจนกลายเป็นส่วนสำคัญของงาน THAIFEX ที่ได้รับกับการกล่าวขานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ว่าเป็นงานที่เชฟได้แสดงทักษะความรู้ ความสามารถในการทำอาหารได้อย่างเต็มที่ภายใต้มาตรฐานระดับโลก โดยปีนี้มีผู้เข้าร่วมสมัครทั้งหมดกว่า 1,000 คน ทั้งระดับมืออาชีพ และเยาวชน จากทั้งหมด 13 ประเทศ และยังได้รับเกียรติจาก มร. ริค สตีเฟ่น สัน นายกสมาคมเชฟโลก ซึ่งเดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมกับคณะกรรมการเชฟที่มีชื่อเสียงทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ในวงการอาหารถึง 29 คน มาร่วมตัดสินการแข่งขันในครั้งนี้ เพื่อรับรองการแข่งขันระดับสากล และเฟ้นหาเชฟที่มีฝีมือเข้าสู่วงการเพิ่มขึ้น"
ทางด้าน เชฟวิลแมน ลีออง ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ได้กล่าวว่า "การแข่งขันในปีนี้มีความท้าทายมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยเน้นรายละเอียดการเตรียมวัตถุดิบ คุณภาพของส่วนผสม ไปจนถึงการจัดดิสเพลย์อาหาร ซึ่งเชฟที่เข้าแข่งขันทั้งหมดจะต้องทำเวลาและแสดงฝีมือการทำอาหารให้ออกมายอดเยี่ยมที่สุด เราได้แบ่งการแข่งขันทั้งหมดออกเป็น 20 ประเภท โดยมีไฮไลท์หลักอยู่ที่ Mekong Culinary Challenge การทำอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากแม่น้ำโขงเพื่อตอกย้ำความอุดมสมบูรณ์ทางด้านวัตถุดิบในแถบของอินโดจีนหรือภูมิภาคอาเซียน"
สำหรับผู้ที่ชนะการแข่งขันในแต่ละประเภทจะได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ และเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท โดยมีรางวัลใหญ่ 3 ประเภท คือรางวัล Best Establishment Award สำหรับทีมที่ทำคะแนนรวมสูงสุด รางวัล Best Ultimate Professional Chef Award สำหรับผู้เข้าแข่งขันประเภทบุคคลระดับเชฟมืออาชีพ ที่ทำคะแนนรวมสูงสุด และรางวัล Best Ultimate Junior Chef Award สำหรับผู้เข้าแข่งขันประเภทบุคคลระดับเชฟเยาวชน ที่ทำคะแนนรวมสูงสุด ทั้งนี้ยังมีรางวัลของการแข่งขันประเภทต่างๆ ได้แก่ ครัวร้อน อาหารไทยสมัยใหม่ เมนูนอร์วีเจียนแซลมอน อาหารเกาหลี ทั้งนี้ยังมีการประกวดการจัดดิสเพลย์อาหาร ขนมหวานไทย และขนมตะวันตก ตลอดจนการแกะสลักผักผลไม้
ทั้งนี้ บริษัท โคโลญ เมสเซ่ จำกัด ยังได้ทำพิธีลงนามสัญญาข้อตกลงร่วมกันกับสมาคมเชฟประเทศไทย นำโดยเชฟ สมศักดิ์ รารองคำ นายกสมาคมฯ เรื่องการร่วมจัดงานการแข่งขันสุดยอดเชฟไทยแห่งปีครั้งที่ 6 Thailand Ultimate Chef Challenge 2017 ในงาน THAIFEX 2017 ในปีต่อไป "เราอยากให้การแข่งขันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับผู้เข้าแข่งขันได้เปิดโลกทัศน์ ฝึกทักษะ และพัฒนาตนเองในด้านการทำอาหาร ตลอดจนสร้างสรรค์ความแปลกใหม่ให้เกิดขึ้นในวงการอาหารของประเทศไทย ทั้งยังการสร้างมูลค่าเพิ่มและต่อยอดให้กับสายอาชีพได้อีกด้วย" เชฟสมศักดิ์ กล่าวปิดท้าย