นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือIFEC เปิดเผยว่า จากการลงทุนขยายธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริษัทต้องปรับโครงสร้างรายได้ใหม่ โดยยังคงเดินหน้ารุกธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกเป็นหลัก ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม โรงไฟฟ้าชีวมวลและพลังงานขยะ ซึ่งจะส่งผลให้มีสัดส่วนรายได้ในธุรกิจนี้ไม่ต่ำกว่า 60%
นอกจากนี้ยังได้ดำเนินธุรกิจระบบเทคโนโลยีและการสื่อสารเพื่อสนับสนุนการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ ระบบสมาร์ทกริด (Smart Grid) ระบบแบตเตอรี่สำรองไฟฟ้า (Energy Storage) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าได้อย่างมาก รวมไปถึงจะมีการลงทุนในธุรกิจไฟเบอร์ออฟติก โดยสัดส่วนรายได้ของธุรกิจระบบสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจะอยู่ที่ 20% ขณะที่ "โรงแรมดาราเทวี" ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 100% จะมีสัดส่วนรายได้ราว 15% ส่วนธุรกิจอื่นๆ มีสัดส่วนรายได้อีก 5%
"การปรับโครงสร้างรายได้ธุรกิจใหม่นั้นเพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ที่จะเพิ่มเข้ามาจากหลายทาง แต่หลักๆ ก็ยังอยู่ในธุรกิจพลังงานทดแทน และ ธุรกิจเทคโนโลยีที่สนับสนุนการผลิตกับพลังงานทดแทน สัดส่วนทั้ง 2 ธุรกิจรวมกันไม่ต่ำกว่า 80% เราคิดมากกว่าแค่การรับใบอนุญาตผลิตไฟฟ้า นั้นคือ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต อย่าง Energy Storage จะช่วยทำให้เราสามารถสำรองไฟฟ้า ทำให้อัตราการผลิตไฟฟ้าทั้งแสงอาทิตย์ และ ลม สูงขึ้นกว่าเดิมมาก ซึ่งเราก็จะใช้สำหรับเราเอง และขายด้วย" นายวิชัย กล่าว
นายวิชัย เปิดเผยด้วยว่า บริษัทยังเดินหน้าตามแผนการขยายโรงไฟฟ้าอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ และ พลังงานลม ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ต่างประเทศ สนใจบริษัทค่อนข้างมากและจะมีการเซ็นความร่วมมือกับหลายหน่วยงานในเร็วๆ นี้
สำหรับปี 2559 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ 100 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มจำนวน 21.5 เมกะวัตต์ ส่วน โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตปีนี้รวม 300 เมกะวัตต์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากปัจจุบันที่มีกำลังผลิต 10 เมกะวัตต์ ขณะที่ โรงไฟฟ้าชีวมวลและขยะนั้น ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตสำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวล จำนวน 6.8 เมกะวัตต์ คาดว่าภายในสิ้นปี 2559 จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้เป็น 10 เมกะวัตต์
ด้าน นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IFEC ยืนยันว่า บริษัทจะสามารถนำโรงแรมดาราเทวี ออกจากแผนฟื้นฟูได้ในไตรมาส 2 นี้ ซึ่งจะส่งผลให้ โรงแรมดาราเทวี กลับมาปลอดหนี้สิน และ สามารถทำกำไรจากการดำเนินงานได้ทันทีราว 100 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้เพิ่มเติมในปีนี้อีกจำนวนมาก
โดยยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจโรงแรมดาราเทวี จะมีการจัดโครงสร้างตั้งเป็น โฮลดิ้ง คอมพานี โดยแบ่งสายการดำเนินธุรกิจออกเป็น 6 ด้าน ด้วยกัน ประกอบด้วย 1.ธุรกิจโรงแรม 6 ดาว ดาราเทวี ซึ่งปัจจุบันมีชื่อเสียงทั้งในไทยและต่างประเทศ มีจำนวนห้องพักทั้งสิ้น 123 ห้อง จากนี้ไปจะดำเนินการทำการตลาดจัดโปรโมชั่นเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มยอดการเข้าพัก 2. ธุรกิจการบริหารสินทรัพย์ โดยบริษัทได้จัดตั้งบริษัทเพื่อพัฒนาสินทรัพย์ในพื้นที่ 155 ไร่ ในการสร้างรายได้เพิ่มเติมเข้ามา อาทิ การสร้างเรสซิเดนซ์จำหน่าย เป็นต้น
3.ธุรกิจร่วมลงทุน บริษัทจะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการหรูบนพื้นที่ของโรงแรมดาราเทวี 40 ไร่ ร่วมกับพันธมิตร มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ทั้งการพัฒนาส่วนต่อขยายโรงแรมหรูระดับ 6 ดาว จำนวน 80 ห้อง พัฒนาอาคารชุดเพื่อขาย (คอนโดมิเนียม) จำนวนกว่า 200 ยูนิต และโครงการเรสซิเดนซ์ล้อมรอบสระน้ำขนาดใหญ่ (pool resident) จำนวน 16 ยูนิต โดยบริษัทจะเข้าไปถือหุ้นในส่วนนี้ราว 49% คาดว่าจะประกาศร่วมทุนได้ในเดือนกรกฎาคมนี้
4.ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ดาราเทวีมีอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย ทั้ง อาหารไทย จีน อิตาลี ฝรั่งเศส บุฟเฟต์ รวมไปถึง ร้านขนม ดาราเทวี เค้ก ช็อป ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก และจะมีการขยายธุรกิจในส่วนนี้ออกไปต่อเนื่อง
5.ธุรกิจสปาบำบัด หรือ Wellness Spa ปัจจุบัน THE DHAVA SPA ของดาราเทวีมีชื่อเสียงอย่างมาก ซึ่งนับเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจ ท่ามกลางที่ไทยเป็นศูนย์กลางของการบริการ Hospitality
6.ธุรกิจการบริหารจัดการแบรนด์ดาราเทวี ด้วยระบบการดำเนินงานที่เป็นเลิศของดาราเทวีและความมีชื่อเสียงด้านการบริการ ทำให้บริษัทสามารถขายสิทธิ์ในการใช้แบรนด์ดาราเทวี รวมไปถึงการขยายสู่การบริการตั้งเป็น เชนโรงแรม (Hotel Chain)
นายสิทธิชัย มั่นใจว่า การจัดโครงสร้างดังกล่าวจะทำให้โรงแรมดาราเทวีสามารถขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากปัจจุบันที่เริ่มกลับมาทำกำไรจากการดำเนินงานได้แล้ว และในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะนำ โรงแรมดาราเทวี เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป