นายไมตรี กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่หลากหลาย ความก้าวหน้า ทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ รวมทั้งความต้องการหรือความคาดหวังของประชาชนล้วนเป็นปัจจัยที่หน่วยงานภาครัฐต้องเร่งพัฒนาบุคลากร พัฒนากระบวนการปฏิบัติงานให้สอดคล้องและเท่าทันความต้องการของทุกภาคส่วนในสังคม รวมถึงภาคีเครือข่ายในระดับชาติและระดับนานาชาติ การจะขับเคลื่อนให้ภารกิจบรรลุเป้าหมายจึงต้องพัฒนา ให้บุคลากรมีความพร้อม ดังนั้น กระบวนการพัฒนาบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาผู้นำองค์กรต้องควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรทุกระดับ รวมทั้งการคำนึงถึงขีดความสามารถในการปฏิบัติงานและคุณภาพชีวิตของบุคลากร ย่อมสามารถผลักดันให้ภารกิจขององค์กรประสบความสำเร็จได้
นายไมตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว และความเสมอภาคระหว่างเพศในสังคมไทย ทั้งในระดับนโยบายและระดับพื้นที่ ซึ่งการจะขับเคลื่อนให้ภารกิจดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จได้ สค. ได้ดำเนินนโยบายด้านการพัฒนาบุคลากรมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้ดำเนินกิจกรรมพัฒนาบุคลากรไปแล้ว เช่น การเตรียมความพร้อมบุคลากรเข้าสู่ประชาคมอาเซียน การพัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงานตามตำแหน่ง การพัฒนาสมรรถนะด้านความเชี่ยวชาญในสายอาชีพ การพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะในการนำเสนอข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพในรูปแบบ Infographic การพัฒนาคุณภาพชีวิตบุคลากร สค. การดูแลสุขภาพบุคลากรทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ภายใต้แนวคิด "สค. Happy Together" เป็นต้น