นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซอิท จำกัด (มหาชน) (LIT) ผู้ให้บริการทางการเงินประเภท Non-Bank ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและย่อม (SMEs) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/59 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/59 เพราะเป็นเริ่มต้นเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และมั่นใจว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้พอร์ตสินเชื่อ รายได้ และกำไรของบริษัทฯจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามแผนและยุทธศาสตร์ 3 ปี (2557-2559) นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดที่ทีมผู้บริหารมุ่งมั่นจะทำให้สำเร็จตามพันธะเป้าหมาย โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรัฐบาลเดินหน้าขยายการลงทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนวิธีการประมูลของภาครัฐรูปแบบใหม่ โดยหันมาใช้ระบบ E-Bidding แทน E-Auction ซึ่งทำให้มีผู้ประกอบการ SMEs หน้าใหม่ เข้ามาร่วมประมูลมากขึ้น ทำให้สินเชื่อของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
โดยในช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาบริษัทฯได้ลงนามสนับสนุนวงเงินสินเชื่อประเภทสัญญาเช่าทางการเงิน (Leasing) และสัญญาเช่าซื้อ (Hire Purchase) ให้กับลูกค้า 3 โครงการ เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 94.02 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเช่าเหมาบริการเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วงจำนวน 1,309 เครื่อง รวมเป็นมูลค่าสัญญาทั้งสิ้น35.67 ล้านบาทตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.2559 -13 เม.ย.2562 โดยมีเงื่อนไขชำระเงินเป็นงวด จำนวนทั้งสิ้น 36 งวด ตามสัญญาที่กำหนดไว้
"เพื่อเป็นการรองรับแผนปล่อยสินเชื่อไอทีในครั้งนี้ บริษัทฯเตรียมออกและเสนอขายหุ้นวงเงิน150 ล้านบาท ให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง ในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อให้แมทกับสินเชื่อที่ปล่อยให้กับลูกค้า และรองรับดีมานด์ของกลุ่มลูกค้า SMEs ที่มีเป็นจำนวนมาก"นายสมพลกล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2559 สินเชื่อ Factoring บริษัทฯตั้งเป้าหมายเติบโต 100% อยู่ที่ 8,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มียอดรับซื้อหนี้การค้าประมาณ 4,000 ล้านบาท จากการเร่งขยายฐานลูกค้าใหม่ เพื่อนำเสนอสินเชื่อครบวงจรให้ลูกค้า SMEs ขณะที่สินเชื่อ Bid Bond หรือสินเชื่อเพื่อออกหนังสือค้ำประกันซองประมูลสำหรับ SMEs บริษัทฯตั้งเป้าหมายเติบโต 100% จากการที่ภาครัฐให้ความสำคัญกับการประมูลมากขึ้น
ส่วนสินเชื่อ Project Backup Financing คาดวาจะมีส่วนแบ่งรายได้ที่ 30% ของรายได้เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลิตภัณฑ์นี้ให้ผลตอบแทนสูงแต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ซึ่งอาจไม่เหมาะสมที่จะไปเร่งยอดเติบโตในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่สดใสเช่นนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯยังเร่งตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญให้ไปที่ระดับเป้าหมาย 3% ของยอดสินเชื่อคงค้าง โดยในปี 2559 ตั้งเป้าหมายการสำรองไว้ที่ 2.50% ของสินเชื่อคงค้าง และตั้งเป้าหมายคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ที่ระดับ 2.50% ของพอร์ตสินเชื่อรวมเช่นกัน
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซอิท จำกัด (มหาชน) (LIT) กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนักในปีนี้ ทำให้บริษัทฯจำเป็นต้องตั้งการ์ดสูง เพื่อป้องกันความเสี่ยง เพราะการรับซื้อหนี้การค้ามีจุดอ่อน 2 จุด ที่ต้องระมัดระวังคือ บิลปลอม และการแอบไปเก็บเงินของลูกค้า ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการปรับรูปแบบการทำงาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงในจุดนี้ได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/59 บริษัทฯมีรายได้รวม 56.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32.10% กำไรสุทธิ 20.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 1,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 397 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น. 36.62%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1,134 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.88% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2558พอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1,061 ล้านบาท