นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) (AECS) เปิดเผยว่า มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในเดือนมิถุนายน 2559 โดยประเมินว่ามีโอกาสปรับตัวขึ้นในกรอบ 1,380-1,440 จุด ให้น้ำหนักในทางผันผวนขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50-55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากเห็นสัญญาณการ Cut Production ใน US เกิดขึ้นแทนที่ Iran และ OPEC ซึ่งคาดว่าจะส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มสำรวจขุดเจาะ PTTEP, PTT, SCC และปิโตรเคมี IVL ในขณะที่กลุ่มโรงกลั่น TOP, BCP จะเป็น กลุ่มที่ Underperform ตลาดฯ
ขณะที่การขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Funds Rate มีโอกาสชะลอตัวออกไป แม้ว่าโทนของ Statement จะส่งผลต่อความผันผวนในระยะสั้น โดยเรามองว่าตัวเลขการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความเปราะบาง ทุกครั้งที่ความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของ Global High Yield Fixed Income เพิ่มสูงขึ้น การขึ้นอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกทำให้ชะลอออกไป
"การปรับขึ้นของ SET จะยังคงถูก Cap ด้วยเรื่องของ Valuation และความเสี่ยงของการปรับลดผลการดำเนินงาน ทำให้เรามองว่า SET จะปรับตัวเป็นกรอบมากกว่าการปรับขึ้นในทิศทางเดียว เมื่อตลาดลงหาจังหวะซื้อกลับ แต่เมื่อตลาดทำ New High ให้ระวังแรงเทขาย "นายเกรียงไกรกล่าวในที่สุด
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ในเดือนมิ.ย.59 แนะนำลงทุนในหุ้น กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี เลือกหุ้นสำรวจขุดเจาะมากกว่ากลุ่มโรงกลั่น กลุ่มที่มีความเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ เลือก PTTEP- PTT- SCC ส่วนบริษัทที่มีการเติบโตระยะกลางดีกว่าอุตสาหกรรม เลือก IVL- IRPC กลุ่มโรงพยาบาล เลือก Small Cap High Growth เรามองว่า BCH-LPH มีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่เติบโตโดดเด่นกว่า BDMS- BH ส่วนกลุ่มสื่อสาร เลือก ADVANC