กระทรวงเกษตรฯ ลงนาม MOU “โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อปัจจัยการผลิตทางการเกษตร” เพื่อให้เกษตรกรมีปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ พร้อมเตรียมให้บริการเกษตรกร ในงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) พร้อมเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2559

จันทร์ ๐๖ มิถุนายน ๒๐๑๖ ๑๖:๒๘
พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการลงนามและประกาศเจตนารมณ์ "โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อปัจจัยการผลิตทางการเกษตร" ระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรกับสมาคมผู้ประกอบการด้านปุ๋ย สารป้องกันและกำจัดศัตรูพืช และเมล็ดพันธุ์ จำนวน 7 สมาคม ผู้ประกอบการ 238 ราย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งเป็นความร่วมมือในลักษณะประชารัฐ เพื่อให้เกษตรกรมีปัจจัยการผลิต ได้แก่ ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ สารป้องกันและกำจัดศัตรูพืช และเมล็ดพันธุ์ ที่มีคุณภาพ ในราคาที่เป็นธรรม เพื่อให้เกษตรกรมีต้นทุนต่ำลงมีผลผลิตเพิ่มมากขึ้น สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ ซึ่งมีกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ การรักษาคุณภาพสินค้า การลดราคา อาทิ การลดราคาปุ๋ย และการอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกร โดยเกษตรกรสามารถซื้อปัจจัยการผลิตที่เข้าร่วมโครงการได้จากร้านค้าที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร จำนวน 20,000 กว่าแห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะมีเครื่องหมาย "ปัจจัยการผลิตคุณภาพประชารัฐ Q" แสดงอยู่ที่หน้าร้าน

พลเอก ฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการและเตรียมพร้อมให้บริการเกษตรกรตามบทบาทภารกิจ โดยได้จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) เพื่อเตรียมพร้อมเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2559 ที่หวังกระตุ้นให้เกษตรกรเริ่มต้นการผลิตในปีการเพาะปลูกใหม่ด้วยการใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ รวมทั้งเผยแพร่ให้เกษตรกรรู้จักและใช้ประโยชน์จากศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรที่มีอยู่ โดยเตรียมจัดเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) เพื่อให้เป็นต้นแบบแห่งแรกวันที่ 27 พ.ค.นี้ ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา และเตรียมขยายผลให้ครบทุก ศพก.ในแต่ละอำเภอ ๆ ละ 1 จุด รวม 882 แห่งทั่วประเทศ

ทั้งนี้ จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศให้วันที่ 18 พ.ค. 59 เป็นวันเริ่มต้นฤดูฝน ปี 2559 อย่างเป็นทางการ ซึ่งในช่วงระหว่างวันที่ 18 – 24 พ.ค. 59 มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนต่าง ๆ รวม 245.74 ล้าน ลบ.ม. โดยสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,437 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะต้องมีการวางแผนในการระบายน้ำเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนให้ได้มากที่สุด ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งปฏิบัติการฝนหลวงฯ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. – 24 พ.ค. 59 โดยขึ้นปฏิบัติการทั้งสิ้น จำนวน 82 วัน 1,782 เที่ยวบิน มีฝนตก 65 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหลือ 15 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด ภาคอีสาน 15 จังหวัด ภาคตะวันออก 8 จังหวัด ภาคตะวันตก 3 จังหวัด และภาคใต้ 13 จังหวัด มีน้ำไหลเข้าเขื่อน จำนวน 29 เขื่อน รวม 158.06 ล้าน ลบ.ม.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO