นายสุรพงษ์ เจียสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงภาพรวมราคาสินค้าเกษตรซึ่งวัดจากดัชนีราคาสินค้าเกษตรประจำเดือนเมษายน 2559 พบว่า เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.73 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสินค้าที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา โดยปาล์มน้ำมัน ราคาสูงขึ้นตามทิศทางตลาดล่วงหน้ามาเลเซีย ยางพารา ราคาสูงขึ้นเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ประกอบกับราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น และราคาตลาดล่วงหน้า TOCOM และ SICOM ปรับตัวสูงขึ้น สินค้าที่มีราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สับปะรดโรงงาน โดยข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15 % ราคาลดลงเนื่องจากภาวะภัยแล้งทำให้คุณภาพไม่ค่อยดี และสับปะรดโรงงาน ราคาลดลงเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าเดือนที่ผ่านมา
หากเปรียบเทียบดัชนีราคาสินค้าเกษตรเดือนเมษายน 2559 กับเดือนเมษายนปีที่แล้ว (ปี 2558) ภาพรวมสูงขึ้น ร้อยละ 4.98 สินค้าที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ทุเรียน และเงาะ โดยข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาสูงขึ้นเนื่องจากสภาวะแห้งแล้งทำให้ผลผลิตลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทุเรียน และเงาะ ราคาสูงขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ทำให้ผลผลิตลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สินค้าที่มีราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ สับปะรดโรงงาน ราคาลดลงเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาทั้งนี้ ในเดือนพฤษภาคม 2559 คาดว่า ดัชนีราคาสินค้าเกษตรจะใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา
ด้านนายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการ สศก. กล่าวเพิ่มเติมถึงดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเดือนเมษายน 2559 เทียบกับเดือนมีนาคม ปี 2559 พบว่า ลดลงร้อยละ 18.75 สินค้าสำคัญที่ผลผลิตลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า มันสำปะหลัง ยางพารา ไก่เนื้อ และไข่ไก่ สินค้าสำคัญที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ทุเรียน สับปะรดโรงงาน เงาะ และมังคุด และหากเทียบกับเดือนเมษายน (ปี 2558) พบว่า ภาพรวมผลผลิตลดลง ร้อยละ 1.63 สินค้าสำคัญที่ผลผลิตลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ทุเรียน และเงาะ สำหรับสินค้าสำคัญที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ สับปะรดโรงงาน
ทั้งนี้ ในเดือนพฤษภาคม 2559 คาดว่า ดัชนีผลผลิตจะลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2558 และลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน 2559 สินค้าสำคัญที่ออกสู่ตลาดมากในเดือนพฤษภาคม 2559 ได้แก่ สับปะรดโรงงาน ทุเรียน มังคุด เงาะ และลิ้นจี่