รองปลัด วธ. กล่าวต่อว่า ภาพยนตร์ เรื่อง เส้นทางรัก (#LOVE EN ROUTE) เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอความโดดเด่นและเอกลักษณ์ของสถานที่ท่องเที่ยว และความเป็นไทย โดยในภาคแรกมีเนื้อหาโดยย่อก็คือ พระเอกเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ เดินทางมาพบกับนางเอกหญิงสาวชาวไทย และได้ร่วมประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยว เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งวิถีชีวิตของคนไทย ก่อให้เกิดความประทับใจตลอดการเดินทาง หลังจากนั้นพระเอกก็กลับประเทศของตนเอง ซึ่งจากการเผยแพร่ผ่านทางหน่วยงานภาครัฐ เอกชนต่างๆ โดยเฉพาะได้รับการเผยแพร่ทางรายการคืนความสุขให้คนในชาติ และทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ประชาชนมีโอกาสได้รับชมภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวเกือบทุกหลังคาเรือน ส่งผลมีกระแสการชื่นชมภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก วธ. จึงได้ดำเนินการผลิตภาพยนตร์ เรื่อง เส้นทางรัก ภาค 2 โดยนำเสนอเรื่องราวต่อเนื่องจากภาคแรก โดยดำเนินเรื่องให้พระเอกและนางเอกกลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังจากนางเอกได้เผยแพร่คลิปสั้นๆ เกี่ยวกับตัวเองที่ได้ไปสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงได้เข้าร่วมในเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ ผ่านทางอินสตาแกรม ก็ได้สร้างความคิดถึงลึกๆ แก่พระเอก ที่มีต่อนางเอก และประเทศไทยในฐานะที่เป็น "เมืองแห่งความสุข" จึงตัดสินใจเดินทางกลับมาเมืองไทยโดยไม่ให้นางเอกรู้ตัวล่วงหน้า หลังจากได้เจอกันทั้งสองได้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ของเมืองไทย เช่น วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ย่านเยาวราช ถนนข่าวสาร กรุงเทพฯ วัดธาตุเขาน้อย วัดภูมินทร์ ศูนย์ทอผ้าพื้นเมืองโฮมเจ้าฟองคำ จังหวัดน่าน เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล มัสยิดกลาง จังหวัดปัตตานี สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี รวมทั้งเที่ยวชม วิถีชีวิต ประเพณี อาหารการกิน จนทำให้พระเอกเกิด "ตกหลุมรัก" ประเทศไทย และนางเอกไปพร้อมๆ กัน
จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านรับชมภาพยนตร์ เรื่อง เส้นทางรัก ภาค 2 (#LOVE EN ROUTE 2) ผ่านเว็บไซต์กระทรวงวัฒนธรรม www.m-culture.go.th , Youtube , และสื่อออนไลน์อื่นๆ รวมถึงร่วมมือกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวไปสู่สาธารณชนด้วย อย่างไรก็ตาม วธ. จะมีการสร้าง "เส้นทางรัก ภาค 3" ซึ่งจะเป็นเรื่องราวที่แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์