กสอ. เผยรายชื่อ 8 ย่านแฟชั่นไทย สุดชิค พร้อมตั้งเป้าพัฒนาไทยสู่ประเทศแห่งแฟชั่นครบวงจรที่สุดในเอเชีย

พุธ ๐๘ มิถุนายน ๒๐๑๖ ๑๖:๐๒
กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เผยย่านแฟชั่น ที่มีศักยภาพของประเทศไทยจำนวน 8 ย่าน ได้แก่ ผ้าไหมปักธงชัย มีนบุรี ศูนย์การค้าเทอมินัล 21 ตลาดนัดสวนจตุจักร การค้าสำเพ็ง สยามสแควร์ คริสตัล วิรันด้า และการค้าจังหวัดสกลนคร ซึ่งผ่านการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย Thailand Fashion Cluster 2016 ในสาขาอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้แก่ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนังและรองเท้า อัญมณีและเครื่องประดับ รวมไปถึงวัตถุดิบและaccessory แฟชั่น เพื่อให้มีความเข้มแข็งทั้งด้านการผลิตและการจำหน่าย รวมถึงพัฒนาแบรนด์และอัตลักษณ์ให้โดดเด่น พร้อมวางเป้าหมายสูงสุดในการทำให้อุตสาหกรรมแฟชั่นของประเทศไทยมีความสมบูรณ์ที่สุดในเอเชีย อย่างไรก็ดี ในปี 2558 ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยมีมูลค่ารวมกว่า 620,000 ล้านบาท และตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าสินค้า ในอุตสาหกรรมแฟชั่น ให้ขยายตัวมากกว่า 1 ล้านล้านบาท ภายในปี 2560

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม มีการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย Thailand Fashion Cluster 2016 ขึ้น ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ภายใต้แนวคิด การสร้างความเข้มแข็งกลุ่มเครือข่ายธุรกิจแฟชั่น ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันประเทศไทยมีย่านแฟชั่นที่มีความสมบูรณ์แบบ จำนวน 8 ย่าน ได้แก่ ย่านการค้าผ้าไหม ปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ย่านการค้ามีนบุรี ย่านศูนย์การค้าเทอมินัล 21 ย่านตลาดนัด สวนจตุจักร ย่านการค้าสำเพ็ง ย่านสยามสแควร์ ย่านคริสตัล วิรันด้า ย่านการค้าจังหวัดสกลนคร โดยในแต่ละย่านนั้นมีอัตลักษณ์ที่ชัดเจน และมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ อาทิ ย่านคริสตัล วิรันด้า (ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล ช้อปปิ้งมอลล์ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม) นั้นเป็นย่านที่มีความโดดเด่นด้วยแบรนด์แฟชั่นจากกลุ่มดีไซน์เนอร์ไทยที่สร้างผลงาน ซึ่งแสดงออกถึงความเป็นลักซ์ชัวรี่แบรนด์ และย่านการค้าจังหวัดสกลนคร ที่เป็นย่านแฟชั่นผ้าคราม ซึ่งเป็นผ้าแห่งภูมิปัญญาไทยที่มีอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่ชัดเจนทั้งสีสันและรูปแบบ เป็นต้น

ดร.อรรชกา กล่าวต่อว่า ในปี 2558 ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยมีมูลค่ารวมกว่า 620,000 ล้านบาท และกระทรวงอุตสาหกรรมได้ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าสินค้าในอุตสาหกรรมแฟชั่น ให้ขยายตัวมากกว่า 1 ล้านล้านบาท ภายในปี 2560 โดยที่ผ่านมาได้มีนโยบายในการสนับสนุน ผ่านการดำเนินงานพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่น 4 สาขาเป้าหมาย ประกอบด้วย (1) อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม (2) อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า (3) อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ (4) ธุรกิจสินค้าเกี่ยวกับวัตถุดิบ และaccessory แฟชั่น เพื่อให้เกิดการสร้างความร่วมมือและเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายของย่านแฟชั่นที่มีอัตลักษณ์หรือเอกลักษณ์เฉพาะ และรวบรวมข้อมูลด้านสินค้าและบริการ เพื่อเผยแพร่ผลักดันเครือข่ายธุรกิจย่านแฟชั่นให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของตลาดอุตสาหกรรมแฟชั่น

ด้าน นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การดำเนินงานของเครือข่ายย่านแฟชั่น มุ่งเน้นการรวมตัวกันของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมแฟชั่นให้เกิดเป็นเครือข่ายที่จะเกื้อหนุน ซึ่งกันและกันในด้านต่างๆ โดยดึงเอาความโดดเด่นของแต่ละเครือข่ายที่มีความแตกต่างกันเชิงพื้นที่หรือย่านการค้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ ประสบการณ์ในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ รวมถึงการแสวงหาโอกาสร่วมกันโดยการพัฒนาศักยภาพของเครือข่ายในอุตสาหกรรมแฟชั่นในลักษณะผสมผสานสามารถเชื่อมโยงองค์ความรู้ของสมาชิกในเครือข่ายและต่างเครือข่ายให้เกิดการผลิตในรูปแบบนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ โดยภายใต้โครงการฯ ดังกล่าวนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดแนวทางการดำเนินงาน ด้วยการพัฒนาแบรนด์และอัตลักษณ์ของแบรนด์ และบูรณาการสร้างการรับรู้ในอัตลักษณ์แบรนด์ที่สังเคราะห์จากอัตลักษณ์ที่โดดเด่น ของแต่ละเครือข่าย ตลอดจนสร้างความหลากหลาย (Variety) ทักษะทางด้านการออกแบบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เกิดเป็นอุตสาหกรรมแฟชั่น สร้างสรรค์เป็นมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์แฟชั่นของตราสินค้าที่ประสบความสำเร็จและสร้างให้เครือข่ายของย่านการค้าเป็นที่รู้จักและยอมรับในวงการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแฟชั่น รวมทั้งการรวบรวมข้อมูลผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านของอุตสาหกรรมแฟชั่น เพื่อนำไปใช้ในการกำหนดการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นให้มีการสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กสอ. ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพการผลิต (Productivity) ของ SMEs ด้วยกระบวนการและเครื่องมือต่าง ๆ เช่น การสร้างระบบบริหารจัดการสากล การยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจ การพัฒนาประสิทธิภาพ การผลิต การจัดการด้านพลังงาน การยกระดับระบบการผลิตสู่การผลิตบนฐานนวัตกรรม การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจนการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมในลักษณะเครือข่ายวิสาหกิจ (Cluster) ซึ่งล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจ รวมถึงสร้างความเชื่อมโยงการผลิตภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงกับ SMEs เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันจะนำไปสู่โอกาสการบูรณาการให้ภาคอุตสาหกรรมไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

โดยได้มอบหมายให้ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) สถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมีความชำนาญและประสบการณ์โดยตรงในการพัฒนาผู้ประกอบการรายเดิมและสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ในหลากหลายสาขา ทั้งในภาคการผลิต การค้า และการบริการ รวมทั้งผู้ประกอบการ ด้านการออกแบบ เป็นที่ปรึกษากิจกรรมสร้างเครือข่ายย่านแฟชั่น เพื่อสนับสนุนภารกิจในการส่งเสริม SMEs ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่น เชื่อมโยงสมาชิกทั้งในและนอกเครือข่ายย่านการค้าแฟชั่น บูรณาการด้านการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่การเป็นอุตสาหกรรมแฟชั่นสร้างสรรค์ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและยั่งยืน สร้างรายได้ให้กับแรงงานภายในประเทศและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าแฟชั่นไทย ดร.สมชาย กล่าวทิ้งท้าย

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพัฒนาการจัดการอุตสาหกรรม ชั้น 5 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวี กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4575 , 4581 และสามารถ ติดตามข้อมูลข่าวสาร / กิจกรรม / โครงการต่าง ๆ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ที่ www.dip.go.th หรือ www.facebook.com/dip.pr

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version