นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมมือกับธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ เปิดตัวบริการวางแผนบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัว (Family Wealth Planning Service) ที่ครอบคลุมที่สุดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานระดับโลก เพื่อรองรับความต้องการด้านบริการวางแผนบริหารจัดการเงินและการลงทุนในครอบครัวที่มีสินทรัพย์และสมาชิกจำนวนมากที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ ที่ต้องเตรียมพร้อมและปรับตัวรับความท้าทายในการขยายธุรกิจ การเติบโตอย่างยั่งยืนและการส่งต่อธุรกิจครอบครัวสู่รุ่นต่อไป ซึ่งบริการนี้จะเป็นสิ่งยืนยันความแข็งแกร่งของบริการไพรเวทแบงค์ของธนาคาร ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกแง่มุมของชีวิต
ทั้งนี้ ไนท์ แฟรงค์ (Knight Frank) ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกจากอังกฤษ ได้จัดทำ Attitudes Survey 2015 ในกลุ่มผู้มีสินทรัพย์สูง และออกรายงาน Wealth Trends 2015 ว่า 85% ของเศรษฐีทั่วโลกให้ความสำคัญกับการวางแผนเรื่องทายาทหรือผู้สืบทอดทั้งในเชิงธุรกิจและครอบครัว ซึ่งสอดคล้องกับลูกค้าเศรษฐีในประเทศไทย ที่พบว่า ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นลำดับแรก และมีความกังวลเรื่องการสืบทอดความมั่งคั่งสู่รุ่นต่อ ๆ ไปอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยจะเห็นได้ว่า ธุรกิจขนาดใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยล้วนเป็นธุรกิจครอบครัว ซึ่งธุรกิจครอบครัวทั่วโลกมีอัตราการอยู่รอดจนถึงรุ่นที่ 3 หรือ 4 น้อยมาก จนเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า ธุรกิจครอบครัวมักจะไปได้ไม่เกิน 3 ชั่วอายุคน ปัญหาที่พบบ่อยคือ ขาดการวางแผนบริหารจัดการที่ดีและยั่งยืน ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สิ่งที่เป็นเสมือนดวงใจของลูกค้าทุกคนคือ ครอบครัว ธนาคารจึงให้ความสำคัญกับการช่วยสร้างความสบายใจ และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไร้กังวลของลูกค้า จึงได้มีการพัฒนาบริการวางแผนบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัวขึ้น ซึ่งเป็นบริการที่ใหม่มากในตลาดประเทศไทย โดยทำงานร่วมกับทีมงานของธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ พันธมิตรที่มี
ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เรื่องการจัดการทรัพย์สินครอบครัวมายาวนานกว่า 220 ปี เพื่อให้คำแนะนำลูกค้า ตั้งแต่ การวางแผนการบริการจัดการครอบครัว (Family Continuity Planning) การวางแผนการเงินและการบริหารความเสี่ยง (Financial, Liability and Risk Management) การวางโครงสร้างการถือครองทรัพย์สินอย่างเป็นระบบ (Asset Holding Structure) การวางแผนการสืบทอดความมั่งคั่ง(Succession Planning) การสนับสนุนการดำเนินการสร้างสาธารณประโยชน์ (Philanthropy) และการจัดตั้งสำนักงานครอบครัว (Family Office)
ทั้งนี้ การให้บริการการบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัว ธนาคารกสิกรไทยจะมีบทบาทหลักในการเป็นที่ปรึกษาการวางแผนให้ลูกค้า โดยทำงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรของธนาคาร ซึ่งเป็นผู้เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ในการบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัว อาทิ ด้านกฎหมาย ทรัพยากรบุคคล โดยพันธมิตรของธนาคารทุกรายนั้น เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ทั้งในประเทศไทยและในระดับโลก ซึ่งจะทำงานร่วมกันกับไพรเวทแบงค์เกอร์คนไทยเพื่อผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมครอบครับของคนไทยกับมาตรฐานการให้บริการที่เป็นสากลได้อย่างลงตัว
ปัจจุบัน สายงานธุรกิจบริการไพรเวทแบงค์ (KBank Private Banking Division) ของธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้นำในธุรกิจไพรเวทแบงค์ มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 42% และมีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ย 22% โดยปัจจุบันมียอดรวมสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ของกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงรวมเป็น 7.6 แสนล้านบาท มีลูกค้าประมาณ 9,600 ราย จากทั้งหมดในประเทศไทยที่มีอยู่ประมาณ 23,000 รายแบ่งสัดส่วนเป็นลูกค้าที่อยู่ในกรุงเทพฯ 80% และต่างจังหวัด 20%