http://photos.prnasia.com/prnvar/20160520/8521603229-a
การขยายธุรกิจครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเปิดทางให้บริษัทได้ลงทุนครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมการปลูกต้นไม้ ซึ่งจะช่วยรับมือกับความท้าทายที่กำลังเป็นปัญหาในอุตสาหกรรมป่าไม้และชีวมวลทั่วโลก พร้อมทั้งปูทางสู่การผลิตอย่างยั่งยืนด้วย
ต้นไผ่จัดว่าเป็นพรรณไม้ที่มีความยั่งยืนมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลกในปัจจุบัน ทั้งยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้หลากหลาย อันที่จริงบริษัทได้พัฒนาพื้นที่ปลูกต้นไผ่เชิงพาณิชย์ในประเทศไทยมานานหลายปีแล้ว โดยได้เข้ามาควบคุมดูแลพื้นที่เพาะปลูกในนามของลูกค้าเอกชน พร้อมด้วยคลังสินค้าของตนเอง
แรกเริ่มเดิมทีทางบริษัทปลูกต้นไผ่เพื่อผลิตหน่อไม้ป้อนอุตสาหกรรมอาหารในเอเชีย จากนั้นจึงได้ทุ่มลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาจนค้นพบวิธีการใหม่ๆ (บางกรณีเรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมใหม่เลยทีเดียว) เพื่อแปรรูปเยื่อไผ่และใยไผ่ให้เกิดอรรถประโยชน์
Asia Plantation Capital ร่วมงานกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม รวมถึงคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของบริษัทที่ประกอบด้วยเหล่านักวิชาการชั้นแนวหน้าของเอเชียจากมหาวิทยาลัยและองค์กรวิทยาศาสตร์หลายแห่ง เพื่อพัฒนาโครงการปลูกต้นไผ่เชิงพาณิชย์ อันเป็นต้นกำเนิดของหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยกระบวนการบูรณาการแนวดิ่งเต็มรูปแบบ ตามค่านิยมและความเชื่อที่ Asia Plantation Capital และบริษัทในเครือเดียวกันได้ยึดมั่นเสมอมา และยังเป็นการนำหลักการทำธุรกิจแบบ "from Soil to Oil to You" มาสู่ภาคส่วนใหม่นี้ด้วย
http://photos.prnasia.com/prnvar/20160520/8521603229-b
APC Group ตั้งใจสานต่อความสำเร็จแบบเดียวกับพรรณไม้อื่นๆ เช่น ไม้กฤษณา ด้วยการสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์และดึงศักยภาพสูงสุดของต้นไผ่ออกมา ต้นไผ่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ต้นไม้มหัศจรรย์" และได้รับการยอมรับในวงกว้างว่าช่วยแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้หลายประการ แต่ในเชิงพาณิชย์ยังถูกนำไปใช้ประโยชน์เพียงน้อยนิดเท่านั้น
http://photos.prnasia.com/prnvar/20160520/8521603229-c
"ต้นไผ่เป็นพรรณไม้ที่ APC ให้ความสนใจมานานหลายปีแล้ว" แกรี่ เครตส์ ซีอีโอของ APC Group, Geneva กล่าว "เพราะนอกเหนือจากคุณประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่ปรากฎให้เห็นอย่างต่อเนื่องและไม่สิ้นสุดแล้ว ต้นไผ่ยังมีประโยชน์ในแง่ของสิ่งแวดล้อมด้วย ต้นไผ่เป็นต้นไม้ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยสามารถผลิตอาหารเพื่อทำกำไรได้ภายในเวลาไม่ถึงปี ทั้งยังสามารถใช้ทดแทนชีวมวลและไม้บางชนิดที่กว่าจะปลูกจนโตเต็มที่ต้องใช้เวลานาน 20-50 ปี นอกจากนี้ ต้นไผ่ยังปล่อยก๊าซออกซิเจนสู่บรรยากาศมากกว่าต้นไม้ชนิดอื่นในช่วงเวลาเท่าๆกัน"
คุณเครตส์กล่าวเสริมว่า "ฉายา "ต้นไม้มหัศจรรย์" คู่ควรแล้วในความเห็นของผม แต่เรายังต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการวิจัยและทดสอบเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าต้นไผ่มีความคุ้มค่าในเชิงพาณิชย์จริงๆ ส่วนขั้นตอนต่อไปได้แก่การพัฒนาพื้นที่ปลูกต้นไผ่ขนาดใหญ่ที่มีความยั่งยืน ซึ่งสามารถใช้ผลิตผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท"
"เราได้มีการดำเนินงานในลักษณะเดียวกันนี้กับต้นไม้ชนิดอื่นๆ และเราเชื่อว่าเราได้คิดค้นโมเดลธุรกิจอันเหนือชั้นสำหรับต้นไผ่ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่เราตั้งไว้เมื่อเราทุ่มลงทุนในภาคส่วนใดภาคส่วนหนึ่ง ต้นไผ่มีประโยชน์ใช้สอยนานัปการ ทั้งเป็นอาหาร ชีวมวล ถ่านไม้ กระดานไม้สำหรับงานก่อสร้าง ถ่านชีวภาพ คาร์บอนกัมมันต์ กระดาษ ผ้าเส้นใยไผ่ราคาแพง กระดาษชำระ วัสดุที่ใช้ทำพื้นห้อง เครื่องใช้ในครัวและในบ้าน รถจักรยาน หรือแม้กระทั่งกระเป๋าเดินทาง ตลอดสามปีที่ผมได้เข้ามาประเมินศักยภาพของต้นไผ่ และแปรรูปไม้มหัศจรรย์นี้ในเชิงการค้า นับว่าเป็นช่วงเวลาอันน่าทึ่งและคุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับผม"
ความท้าทายที่ใหญ่หลวงที่สุดประการหนึ่งสำหรับทีมงานของ APC Group ในการนำต้นไผ่มาทำประโยชน์เชิงพาณิชย์ก็คือ การเสาะหาภูมิประเทศที่มีความเหมาะสมและมั่นคงที่สุดสำหรับการพัฒนาและบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ โดยภูมิประเทศนั้นต้องสามารถเข้าถึงตลาดสำคัญๆได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนสภาพดินฟ้าอากาศในก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
ประเทศเคนยา มีสภาพอากาศแทบจะสมบูรณ์แบบ อุดมไปด้วยพื้นที่ทำการเกษตร มีรากฐานเกษตรกรรมที่แข็งแกร่ง ทั้งยังมีโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่เป็นเลิศ จึงนับได้ว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
http://photos.prnasia.com/prnvar/20160520/8521603229-d
ตอนนี้ ทางเครือบริษัทได้ก่อตั้ง Africa Plantation Capital และได้กว้านซื้อที่ดินเพื่อดำเนินการพัฒนาระยะเริ่มต้นในเคนยา
"เรามีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการทางการเกษตรในแอฟริกามานานหลายปีแล้ว" คุณเครตส์กล่าว "แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ลงทุนในที่ดินของเราจริงๆ เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้พัฒนาอุตสาหกรรมไม้ไผ่อย่างยั่งยืนในแอฟริกา ด้วยการเริ่มต้นธุรกิจของเราที่เคนยาในนาม Africa Plantation Capital เราเล็งเห็นศักยภาพอันมหาศาลในประเทศและภูมิภาคนี้ การลงทุนระยะแรกเริ่มในเคนยามีมูลค่าประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับที่ดิน 1,000 เอเคอร์แรก รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง"
นอกเหนือจากพันธสัญญาของเครือบริษัทในการสร้างสรรค์โซลูชั่นและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทั้งล้ำสมัย ยั่งยืน และมีประโยชน์ในเชิงพาณิชย์แล้ว ทางบริษัทยังให้การสนับสนุน Boo?Tex Industries ซึ่งเป็นผู้พัฒนาผ้าเส้นใยไผ่สุดหรูหลากหลายรูปแบบสำหรับวงการแฟชั่นและเสื้อผ้ากีฬา และยังเป็นผู้สนับสนุนโปรเจคท์สร้างซูเปอร์คาร์ที่ผลิตขึ้นอย่างยั่งยืนเต็มรูปแบบรุ่นแรกของโลกอย่าง "ECOO7" ซึ่งผสานเทคโนโลยีสุดล้ำมากมาย เช่น ตัวถังแบบไร้โครงที่ทำจากใยไผ่ รวมถึงตัวรถและโครงรถทั้งหมดที่ผลิตขึ้นด้วยส่วนประกอบจากใยไผ่ลักษณะเดียวกัน ไม้ไผ่มีความทนแรงดึงมากกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับเหล็กกล้า ไม่ขึ้นสนิม และมีน้ำหนักเบากว่าเส้นใยคาร์บอน จึงเป็นตัวเลือกอันสมบูรณ์แบบสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์โลก และคงไม่น่าแปลกใจหากเราได้เห็นเจมส์ บอนด์ ขับรถลักษณะนี้ในภาพยนตร์เรื่องใหม่
http://photos.prnasia.com/prnvar/20160520/8521603229-e
ด้วยพื้นที่เพาะปลูกที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลกครอบคลุมทั้งเอเชีย แอฟริกา และสหรัฐอเมริกา จึงเป็นที่ชัดเจนว่า APC Group และบริษัทในเครือ (Asia Plantation Capital, Africa Plantation Capital และ America Plantation Capital) ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้ทรงอิทธิพลในอุตสาหกรรม และในขณะนี้ ทางเครือบริษัทตั้งเป้าว่าจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมไม้ไผ่ พร้อมขึ้นแท่นเป็นผู้นำด้านการปลูก ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากต้นไผ่ซึ่งมีการดำเนินงานแบบบูรณาการแนวดิ่งเต็มรูปแบบ
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
ชาร์ลอตต์ เมดิก
เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและธุรการ
อีเมล:[email protected]
มือถือ: +41 227 077 330
เกี่ยวกับ APC Group
Plantation Capital ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2545 ก่อนจะก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2551 ในสหราชอาณาจักร จากนั้น Asia Plantation Capital ได้ถือกำเนิดขึ้นที่ศรีลังกาในปี 2552 ตามมาด้วยไทย ฮ่องกง สิงคโปร์ และมาเลเซีย ล่าสุดในปี 2558 ได้มีการจัดตั้งบริษัทใหม่เพิ่มอีกสองแห่ง ได้แก่ Africa Plantation Capital ในเคนยา และ America Plantation Capital ในฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
Asia Plantation Capital Group เป็นเจ้าของพื้นที่เพาะปลูกและโครงการด้านการเกษตรใน 4 ทวีป ซึ่งรวมถึงโครงการในระยะต่างๆในประเทศไทย มาเลเซีย จีน ลาว อินเดีย กัมพูชา ศรีลังกา เมียนมา เวียดนาม อเมริกาเหนือ แอฟริกา และยุโรป ส่งผลให้บริษัทเป็นผู้เพาะปลูก ผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เช่น น้ำมันกฤษณา ไม้กฤษณา และไม้ไผ่ รายใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลกที่มีการทำธุรกิจแบบบูรณาการแนวดิ่ง เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้เปิดโรงงานแปรรูปไม้กฤษณาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งกว้านซื้อพื้นที่เพาะปลูกใหม่ในแอฟริกาและสหรัฐอเมริกา ซึ่งล้วนตอกย้ำถึงหลักการดำเนินงานของบริษัทอย่างชัดเจน
เกี่ยวกับ Boo-Tex
Boo-Tex Industries ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Boo-Tex Group ก่อตั้งขึ้นที่สหราชอาณาจักรโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนา วิจัย และจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่หลากหลายประเภท เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมต่างๆ Boo-Tex Group ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย องค์กร และหน่วยงานรัฐบาล ในการพัฒนาไม้ไผ่ วัสดุอื่นๆที่มีความยั่งยืน รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนที่สุดประเภทหนึ่งในโลกยุคปัจจุบัน
รูปภาพ 1 - http://photos.prnasia.com/prnh/20160520/8521603229-a
รูปภาพ 2 - http://photos.prnasia.com/prnh/20160520/8521603229-b
รูปภาพ 3 - http://photos.prnasia.com/prnh/20160520/8521603229-c
รูปภาพ 4 - http://photos.prnasia.com/prnh/20160520/8521603229-d
รูปภาพ 5 - http://photos.prnasia.com/prnh/20160520/8521603229-e
คำบรรยายภาพ
1. ต้นไผ่ ต้นไม้ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และได้รับการขนานนามว่าเป็น "ต้นไม้มหัศจรรย์"
2. "Boo Bike" ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ของ Plantation Capital Group
3. กระเป๋าเดินทางไม้ไผ่จะปรากฎให้เห็นบนสายพานตามสนามบินต่างๆทั่วโลก
4. พื้นที่ปลูกต้นไผ่ของ Africa Plantation Capital บนทำเลทอง ใกล้กับท่าเรือเมืองมอมบาซาของเคนยา
5. "ECOO7" ซูเปอร์คาร์ที่ผสานเทคโนโลยีสุดล้ำ มาพร้อมตัวถังแบบไร้โครงที่ทำจากใยไผ่