บี แอนด์ เจ กรุ๊ป เปิดแผนครึ่งปีหลัง ส่งเซรั่มน้ำแร่ SHO (โช) บุกตลาด AEC

จันทร์ ๑๓ มิถุนายน ๒๐๑๖ ๑๑:๒๔
บี แอนด์ เจ กรุ๊ป เปิดแผนครึ่งปีหลัง ส่งเซรั่มน้ำแร่ SHO (โช) บุกตลาด AEC ประเดิมที่จีน ลาว และเวียดนาม ชูจุดเด่นนวัตกรรม "ใช้น้ำแร่ธรรมชาติแทนน้ำ 100%" มั่นใจตอบโจทย์ความต้องการคนรุ่นใหม่ คุณภาพระดับโลกราคาจับต้องได้

นายณัฐพฤทธ์ ตีระพิพัฒนะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี แอนด์ เจ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึงการขยายตลาดครึ่งปีหลัง ของผลิตภัณฑ์เซรั่มน่ำแร่ SHO (โช) ว่าหลังจากวางตลาดสินค้าในไทยมา 1 ไตรมาส ผลตอบรับเป็นไปได้ดีเกินคาด บริษัทฯ จึงวางแผนที่จะนำสินค้าบุกตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในเขต AEC ซึ่งผู้บริโภคมีพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ และสภาพผิวหน้าใกล้เคียงกับคนไทย

"บริษัทวางยุทธศาสตร์ ในการขยายตลาดสู่ตลาดโลก โดยเริ่มจากประเทศจีน และประเทศในเขต AEC ก่อนเป็นอันดับแรก โดยจะทำตลาดในรูปแบบของการแต่งตั้งบริษัทตัวแทนจำหน่ายสินค้าในแต่ละประเทศ ให้ดูแลทำการตลาดให้กับบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะสนับสนุนงบประมาณและกลยุทธ์การทำตลาดให้กับตัวแทนจำหน่ายเหล่านั้นตามความเหมาะสม"

สำหรับรายละเอียดการขยายตลาดนั้น ประเทศจีนเป็นประเทศแรกที่บริษัทฯ ส่งสินค้าไปจำหน่ายแล้ว โดยได้เซ็นสัญญากับ บริษัท Thailand Fangzheng Industrial Development Co.,Ltd. แต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่าย นำเข้าสินค้าไปจัดจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ Taobao เว็บไซต์ขายสินค้าอันดับ 1 ของจีน และขณะนี้ได้เริ่มมีการเจรจากับตัวแทนจำหน่ายในประเทศลาว ซึ่งคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายสินค้าได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ และจากนั้นจะขยายตลาดสู่ตประเทศเวียดนามเป็นลำดับต่อไป โดยคาดว่าจะสรุป และวางจำหน่ายภายในไตรมาส 4 ของปีนี้อย่างแน่นอน

สำหรับการวางตลาดสินค้าเซรั่มน้ำแร่แบรนด์ SHO ในประเทศไทย บริษัทฯ วางจำหน่ายผ่านร้านค้าเครื่องสำอางและเวชสำอางต่างๆ ทั่วประเทศ และนอกจากนั้นแล้ว ยังเสริมด้วยการวางจำหน่ายผ่านทางลาซาด้า (LAZADA) และช่องทางออนไลน์ของบริษัทฯ เช่น เฟสบุ๊คและอินตราแกรม โดยวางจำหน่ายในขนาดบรรจุ 20 ม.ล. ในราคาเพียง 1,290 บาท ตั้งกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้หญิงวัยทำงาน ที่ทันสมัย รู้จักเลือกใช้สินค้าคุณภาพดี เพราะคนกลุ่มนี้จะรู้เป็นอย่างดีว่า เครื่องสำอางหรือเวชสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำแร่ธรรมชาติ 100% คือ สินค้าเกรดพรีเมี่ยมเท่านั้น และ SHO คือ เวชสำอางหนึ่งในสินค้าเกรดพรีเมี่ยมนั้น แต่เป็นแบรนด์ไทย และราคาแบบไทยๆ ที่ทุกคนสามารถซื้อไปใช้ได้อย่างสบายกระเป๋า

"เครื่องสำอางค์หรือเวชสำอางค์ที่จำหน่ายในตลาด ส่วนใหญ่ใช้น้ำเป็นส่วนผสมหลัก จะมีใช้น้ำแร่ธรรมชาติเป็นส่วนผสมบ้างก็จะเฉพาะในสินค้าระดับพรีเมี่ยม แต่ก็เป็นแค่ส่วนผสมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากน้ำแร่ธรรมชาติมีต้นทุนสูง ดังนั้น เพื่อต้องการยกระดับคุณภาพเวชสำอางค์ไทย ให้มีคุณภาพเทียบเท่าแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เราจึงตัดสินใจสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นจากส่วนผสมของน้ำแร่ธรรมชาติ 100% เป็นรายแรกของเมืองไทยและของเอเชีย" นายณัฐพฤทธ์

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มั่นใจอย่างยิ่งว่า ด้วยจุดเด่นเชิงนวัตกรรมของน้ำแร่ธรรมชาติ 100% ที่เป็นรายแรกและรายเดียวของวงการเวชสำอางค์เมืองไทยและเอเชีย จะสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า สอดรับกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้า และจะผลักดันให้สินค้าได้รับการยอมรับภายในระยะเวลาอันใกล้นี้อย่างแน่นอน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ