1. สมาชิกอาเซมได้หารือถึงสถานการณ์และแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียและยุโรป โดยเห็นว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วยังคงขยายตัวอย่างไม่ชัดเจน ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนามีแนวโน้มชะลอลง ทั้งนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจากการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการเติบโตจากภายใน ความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้าย ระดับราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตกต่ำลง และประเด็นความเสี่ยงทางการเมือง (Geopolitical Risk) ถือเป็นปัจจัยท้าทายสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียและยุโรปในระยะต่อไป ในการนี้ ที่ประชุมสนับสนุนความร่วมมือระหว่างทั้ง 2 ภูมิภาคในการดำเนินนโยบายเพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจและรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะสั้น ควบคู่ไปกับการปฏิรูปโครงสร้าง (Structural Reform) เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระยะยาว
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซมได้ร่วมกันพิจารณาประเด็นความร่วมมือด้านการเงินระหว่างทั้งสองฝ่าย เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพทางการเงินของภูมิภาค โดยได้หารือถึงบทบาทและการพัฒนาที่สำคัญของกลไกความช่วยเหลือทางการเงินในกรณีที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียและยุโรป ได้แก่ European Stability Mechanism (ESM) และ Chiang Mai Initiative Multilateralisation (CMIM) และเรียกร้องให้มีความร่วมมือระหว่าง IMF กับกลไกความช่วยเหลือทางการเงินดังกล่าวมากขึ้น
3. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซมได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างทั้ง 2 ภูมิภาคเพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยสนับสนุนการเปิดเสรีการค้าและต่อต้านการกีดกันทางการค้าในทุกรูปแบบ นอกจากนี้ ได้สนับสนุนการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจของทั้ง 2 ภูมิภาค โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อเป็นกลไกหลักในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจระหว่างกัน อีกทั้ง ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ การสร้างงาน ความเท่าเทียมของรายได้ และการค้าระหว่างประเทศ โดยได้เสนอแนะให้มีการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-Private-Partnerships: PPPs) สำหรับโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกเพื่อยกระดับการพัฒนาระหว่างกัน
4. การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซมครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในปี 2561 โดยประเทศบัลแกเรียจะเป็นเจ้าภาพ
สำนักนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3613