ดร.เฉลิมพล กล่าวว่า ปัจจุบัน การบริหารงานสหกรณ์ออมทรัพย์ ได้มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้ประโยชน์ในการดำเนินงาน ซึ่งต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบเพิ่มสูงขึ้น และสหกรณ์ขนาดเล็กที่มีงบประมาณ จำกัด ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งยังมีปัญหาขาดแคลนบุคลากรด้านไอที ซึ่งส่งผลให้เสถียรภาพของระบบงานสหกรณ์ในภาพรวม มีความเสี่ยงมากขึ้นในอนาคต อีกทั้ง ชสอ. มีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาให้ ชสอ. เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีสารสนเทศ ของขบวนการสหกรณ์ออมทรัพย์ จึงกำหนดแผนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยการจัดหาโปรแกรมระบบงานสหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ สามารถเชื่อมโยงระบบข้อมูลของสหกรณ์ออมทรัพย์ได้ทั่วประเทศ และเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทัดเทียมกับชุมนุมสหกรณ์ในต่างประเทศ
ชสอ. ได้รับอนุมัติงบลงทุนจากที่ประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2556 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2556 อนุมัติงบลงทุนซื้อโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์ 18 ระบบงานหลัก จำนวน 316 ล้านบาท และอนุมัติงบลงทุนค่าจัดทำศูนย์คอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ทั้งระบบ จำนวน 120 ล้านบาท เป็นงบผูกพัน 4 ปี (ปีบัญชี 2556-2559) ชสอ. จ้าง บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อออกแบบ พัฒนา ติดตั้งโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2558 มูลค่าโครงการรวมกว่า 285 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโปรแกรมระบบงานสหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพและมีความทันสมัย ได้มาตรฐาน มีการบริหารจัดการรูปแบบเดียวกัน ให้กับสหกรณ์สมาชิก ซึ่งปัจจุบันการพัฒนาโปรแกรมฯ เป็นไปด้วยดี ตามแผนงานที่กำหนดไว้ร่วมกัน ด้วยทีมงานที่มีประสิทธิภาพ และได้รับความร่วมมือ จากสหกรณ์นำร่อง จำนวน 16 สหกรณ์ในหลากหลายกลุ่มอาชีพเข้าร่วมในการให้ข้อมูลระบบงานสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ใช้ในปัจจุบัน เข้าร่วมการทดสอบระบบ และใช้งานจริงโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์ให้บริการแบบศูนย์รวมที่มีมาตรฐาน มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพเหมาะสมกับการใช้งานของสหกรณ์สมาชิก เพื่อให้สหกรณ์สมาชิก มีโปรแกรมระบบงานสหกรณ์ออมทรัพย์ใช้บริหารจัดการรูปแบบเดียวกัน อีกทั้งสามารถทำธุรกรรมกับธนาคารได้แบบข้อมูลเป็นปัจจุบัน (Real time)
ดร.เฉลิมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการจัดหาโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อสหกรณ์สมาชิก ชสอ.ได้ทำสัญญาใช้บริการเครือข่าย ATM ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และการใช้บริการเครือข่ายสื่อสารข้อมูล Private Link กับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
นายอรุณ กล่าวว่า ทาง เมโทรซิสเต็มส์ฯ รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ออกแบบ พัฒนา ติดตั้งโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อสหกรณ์สมาชิก เนื่องจากบริษัทฯ มีความมั่นคง เป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านไอทีแบบครบวงจรมากว่า 30 ปี มีความรู้ทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย และได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรทางการค้าชั้นนำระดับโลก มีการพัฒนาบุคลากรในระดับมืออาชีพ (IT Certification) มีการนำ Software Development Methodology ที่ได้มาตรฐานมาใช้ในการพัฒนาระบบ และมีการพัฒนาธุรกิจโดยมุ่งเน้นที่ความสำเร็จของลูกค้าเป็นหลัก
ขณะนี้ บริษัทฯ ก็ได้ดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ คือ ช่วง 1 ปีแรกระหว่างเดือน มิ.ย. 2558 ถึงเดือนพ.ค. 2559 จะเป็นการพัฒนา ระบบงานหลัก จำนวน 9 ระบบ ได้แก่ 1.ระบบงานทะเบียนสมาชิก 2.ระบบงานทะเบียนทุนเรือนหุ้น 3.ระบบงานเงินฝาก 4.ระบบงาน สินเชื่อ 5.ระบบงานบัญชีและงบประมาณ 6.ระบบงานการเงิน 7.ระบบงานการดูแลปฏิบัติงาน 8.ระบบงานการเชื่อมต่อกับ ATM กับ ธนาคาร และ ระบบการกระทบยอดและชำระดุล (ระหว่าง ชสอ. กับ ธนาคาร และ ชสอ. กับ สอ. สมาชิก โดยยึดหลักการออกแบบรหัสมาตรฐานกลาง ตามมาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย) 9.ระบบงานการยกยอด/โอนย้ายข้อมูล (Data Conversion & Migration) และจะดำเนินการพัฒนาช่วงที่ 2 ต่อไป คือ โปรแกรมระบบงานเสริม จำนวน 9 ระบบงาน ระหว่าง เดือน มิ.ย. 2559 ถึงเดือน พ.ค. 2560 ได้แก่ 1.ระบบงานตั๋วสัญญาใช้เงิน 2.ระบบงานเงินลงทุน 3.ระบบงานสวัดิการสมาชิก 4.ระบบงานสอบถามข้อมูลสมาชิก 5.ระบบงานผู้บริหารสอบถามข้อมูลธุรกิจ (MIS) 6.ระบบงานสมาชิกสัมพันธ์ 7.ระบบงานทะเบียนสินทรัพย์ 8.ระบบงานปรับปรุงโครงสร้างหนี้ 9.ระบบงานสอบถามข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตและผ่านทางอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือสำหรับสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์ (Internet & Mobility Information Service)
นายทรงพล กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทย ได้รับความไว้วางใจเป็นผู้ให้บริการออกบัตรเดบิตชิปการ์ดร่วม ภายใต้ชื่อบัตรชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นบัตรที่มีความปลอดภัย สามารถป้องกันการคัดลอกข้อมูลของผู้ถือบัตรจากการถูกโจรกรรมด้วยเครื่องสกิมเมอร์ และการปลอมแปลงบัตร สามารถอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศ ในการทำธุรกรรมผ่านตู้ ATM เช่น การสอบถามยอดเงินฝากสหกรณ์ เงินกู้สหกรณ์ การถอนเงินฝากสหกรณ์ เงินกู้สหกรณ์ รวมทั้งการโอนเงินระหว่างบัญชีสหกรณ์และบัญชีธนาคารได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีสหกรณ์สมาชิกเข้าร่วมโครงการนำร่อง 16 สหกรณ์ มีสมาชิกกว่า 4 หมื่นราย และคาดว่าภายในปี 2560 จะมีสหกรณ์สมาชิกเข้าร่วมโครงการเพิ่มอีก 200 สหกรณ์ จำนวนกว่า 5 แสนราย
"ความร่วมมือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนโยบาย National e–Payment ของรัฐบาล ซึ่งธนาคารมีความพร้อมในการออกบัตรชิปการ์ด รวมทั้งการให้บริการโอนเงินแบบ Any ID และ e-Payment ภาครัฐ ซึ่งธนาคารมุ่งเน้นต่อยอดบริการจัดการทางการเงินให้กับลูกค้า โดยปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดบริหารจัดการทางการเงินเป็น 20% เน้นขยายฐานลูกค้าทั้งในกลุ่มข้าราชการ และภาคธุรกิจ โดยเฉพาะสินเชื่อแฟตตอริ่ง ธุรกิจซัพพลายเชน การบริหารเงินสด ธุรกิจรับฝากหลักทรัพย์ รวมทั้งธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ในกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ และ SME
นางดวงใจ กล่าวว่า กล่าวว่า "บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ขอขอบคุณชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด ทีให้ความไว้วางใจ ทีโอที ในการให้บริการระบบสื่อสารข้อมูลเครือข่าย Private Link พร้อมระบบเครือข่ายโทรคมนาคม เพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้มีศักยภาพในการสนองตอบภารกิจของชุมนุม โดยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้มีความเจริญก้าวหน้า พร้อมทั้งตอบสนองนโยบาย Digital Economy ซึ่งเป็นส่วนสำคัญพื้นฐานในการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ ทีโอที ยังได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาล โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ด้วยการดำเนินการโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิฐของประเทศ โดยการวางระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเชื่อมโยงหมู่บ้านทั่วประเทศ ด้วยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ และโครงข่ายที่มีมาตรฐานระดับสากล ครอบคลุมทั่วประเทศ ทีโอที จึงมีความพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการต่อวิสัยทัศน์ของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ระบบสื่อสารข้อมูลเครือข่าย Private Link ของ ทีโอที จะเชื่อมโยงระบบข้อมูลของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีอยู่กว่า1,000 แห่งทั่วประเทศ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน"
ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด หรือ ชสอ. กำเนิดขึ้น เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2515 เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ ของสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศ ปัจจุบัน มีสหกรณ์สมาชิก จำนวน 1,050 สหกรณ์ สินทรัพย์รวมกว่า 100,000 ล้านบาท มีสำนักงาน ตั้งอยู่ ณ ถนนนครอินทร์ สะพานพระราม 5 จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นอาคารประหยัดพลังงานที่มีความโดดเด่น ทันสมัย เพื่อรองรับการขยายขอบเขตการดำเนินงานที่จะมีต่อไปในอนาคต
** ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ชสอ. โปรดติดต่อ ฝ่ายสื่อสารองค์การ แผนกประชาสัมพันธ์ ชสอ. www.fsct.com โทร. 02 496 1199 ต่อ 319, 320, 321 อีเมล์ : [email protected]
เผยแพร่ข่าวโดย
สุภาพร กิติภัทร์ถาวร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
โทร.02-727-4346
อีเมล์ : [email protected]
www.metrosystems.co.th