ก.ไอซีที แจงข้อเท็จจริงเนื้อหาร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 15 และ 20

ศุกร์ ๑๗ มิถุนายน ๒๐๑๖ ๑๗:๒๖
โฆษกกระทรวงไอซีที ชี้แจงกรณีมีผู้เข้าใจคลาดเคลื่อนไม่ตรงข้อเท็จจริงและเจตนารมณ์การเสนอร่างกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ย้ำหลักการ "ไม่รู้ ไม่ผิด"และ "ผู้ให้บริการเป็นผู้พิสูจน์"ตามมาตรฐานสากล

นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ โฆษกกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า "เนื่องจากพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่มีผลบังคับใช้อยู่ในขณะนี้ได้มีการประกาศใช้มาเป็นเวลาเกือบสิบปีแล้ว ส่งผลให้เนื้อหาบางมาตราของกฎหมายฉบับดังกล่าวเกิดความล้าสมัยและไม่สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน จึงเป็นเหตุผลสำคัญของการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วย

การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... โดยกระทรวงไอซีทีนำเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้เพื่อ ให้สามารถรองรับสถานการณ์ปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งความคืบหน้าของร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเนื้อหาร่างกฎหมายในบางมาตรา ที่อาจไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของการนำเสนอร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวนี้

สำหรับหลักการสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้คือ "ไม่รู้ ไม่ผิด" เนื้อหาของร่างกฎหมายในมาตรา 15 ระบุว่า "ผู้ให้บริการผู้ใดให้ความร่วมมือ ยินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจให้มีการกระทำความผิด..." หลักการคือให้เกิดความชัดเจนในการตีความ เน้นย้ำว่า การจะเอาผิดกับผู้ให้บริการได้ ต้องเป็นกรณีผู้ให้บริการรู้ว่าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของตน เป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นความผิด อีกทั้งยังเพิ่มเติมหลักการให้ผู้ให้บริการหรือผู้เป็นเจ้าของเครือข่าย หากสามารถพิสูจน์ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดดังกล่าวและได้ปฏิบัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ประกาศกำหนดขั้นตอนการแจ้งเตือนในการระงับหรือนำข้อมูลออกจากระบบแล้ว ถือได้ว่าไม่มีความผิดตามมาตราดังกล่าวนี้ ภายใต้หลักการคือ "ผู้ถูกกล่าวหา เป็นผู้พิสูจน์ตนเอง" ว่าตนเองได้กระทำการตามกฏระเบียบของรัฐแล้ว ก็ย่อมพ้นผิด อันเป็นช่องทางให้ผู้ให้บริการให้ความร่วมมือกับรัฐในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดดังกล่าว และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ให้บริการในการประกอบกิจการ เนื่องจากการกำหนดผู้ให้บริการสามารถแสดงหลักฐานว่าตนได้ทำตามกฏและระเบียบแล้ว เนื่องจากผู้ให้บริการอยู่ใกล้ชิดกับข้อเท็จจริงมากกว่าเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองซึ่งผู้ให้บริการและประชาชนอาจไม่ไว้วางใจ

ส่วนมาตรา 20 เนื้อหากฎหมายระบุว่า "ในกรณีที่มีการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรค 1-3 นั้นเป็นความผิดตามมูลฐานเดิมซึ่งถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมายอยู่แล้ว" ส่วนที่บางคนไม่เข้าใจคือข้อความตามวรรค 4 ระบุว่า "ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ไม่เป็นความผิดต่อกฎหมายอื่นแต่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน.." ยกตัวอย่างเช่น คลิปวีดิโอที่ปรากฏทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีเนื้อหาสอนให้คนฆ่าตัวตาย สอนให้ประกอบวัตถุระเบิด เนื้อหาดังกล่าวไม่เข้าข่ายที่เป็นความผิดตามกฎหมาย แต่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี ซึ่งไม่ควรที่จะปล่อยให้มีการเผยแพร่ในสังคมไทย สำหรับขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมาย จะมีคณะกรรมการกลั่นกรองที่รัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวน 5 คน ซึ่งอย่างน้อย 2 ใน 5 คน ต้องมาจากตัวแทนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเป็น ผู้พิจารณา ซึ่งต้องมีมติเป็นเอกฉันท์ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ แล้วจึงเสนอเพื่อขอรับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯอีกทอดหนึ่ง แล้วจึงยื่นคำร้องพร้อมแสดงหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลดังกล่าวออกจากระบบคอมพิวเตอร์

"จะเห็นว่า กรณีดังกล่าวผ่านการตรวจสอบ กลั่นกรองหลายขั้นตอน ทั้งจากคณะกรรมการกลั่นกรอง พนักงานเจ้าหน้าที่ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ โดยเฉพาะในขั้นตอนสุดท้าย จะเป็นอำนาจของศาลที่จะพิจารณา มีคำสั่งให้ระงับการเผยแพร่ข้อมูลนั้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวผ่านการตรวจสอบโดยศาลซึ่งทำหน้าที่ปกป้องสิทธิของประชาชนอีกโสตหนึ่งมากกว่าการให้พนักงานทางปกครองดำเนินการโดยใช้ดุลยพินิจซึ่งเป็นที่มาของความไม่ไว้วางใจในการใช้บังคับกฎหมายนี้มานาน การดำเนินการเหล่านี้จึงผ่านกระบวนการยุติธรรมแบบสากล ไม่ใช่พนักงานฝ่ายปกครองเป็นผู้ดำเนินการตามลำพังแต่อย่างใด" นายฉัตรชัยฯ กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ