ปาล์ม เล่าว่าหลังจากจบวิทยาลัยนาฏศิลปอ่างทอง และได้ประกาศนียบัตรวิชาชีพ จึงยื่นโควตาสอบตรงเข้าเรียนสาขาวิชาดุริยางค์สากล คณะศิลปกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี และมุ่งมั่นขยันเรียน ด้วยฝันอยากเป็นอาจารย์สอนวิชาดนตรี และมีความสุขมากที่ได้เรียนในสิ่งที่ตนเองชอบ
"เสียงดนตรี สร้างความสุขให้กับเราได้ ดนตรีและเครื่องเล่นดนตรีมีมากมาย เราสามารถจับชิ้นโน้นนี่นั้นเล่นให้เกิดเสียงเพลงได้ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมทุกคนถึงรักในเสียงเพลง ผมว่าคนฟังเพลงหรือเล่นดนตรีเป็นคนที่มีรสนิยม และมีพื้นฐานความเป็นศิลปะในการใช้ชีวิต"
นอกจากเรื่องเรียนที่ปาล์มมุ่งมั่นแล้ว ยังแบ่งเวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสังคม เช่น การอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ในเขตความรับผิดชอบธัญบุรี (รหัสธัญบุรี 016) จังหวัดปทุมธานี ด้านสนับสนุนงานกู้ภัยและบรรเทาสาธารณภัย
"จุดเริ่มต้นของอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาจากการชักชวนของพี่ชาย และได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสกับงานหลายส่วน รู้สึกว่าเราก็สามารถเข้าไปช่วยงานตรงจุดนี้ได้ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในสังคม เหมือนได้สร้างบุญสร้างกุศลไปในตัวแก่ตนเองและครอบครัว เพราะเป็นการทำความดีโดยไม่ได้มุ่งหวังสิ่งตอบแทนใดๆ หลังจากทำหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยผ่านไปหลายงาน กระทั่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นอาสาสมัครมูลนิธิอย่างเต็มตัว ทำให้เกิดแรงผลักดันในการทำงานด้านนี้เพิ่มมากขึ้น เช่น การเตรียมตัว เพิ่มพูนความรู้ การพัฒนาความสามารถเกี่ยวกับการเป็นอาสาสมัครกู้ภัย และบอกต่อแนะนำเพื่อน ๆ ให้มาเป็นส่วนหนึ่งของงานอาสาด้านนี้"
เมื่อถามถึงการแบ่งเวลาเรียน ปาล์ม เล่าว่า "การบริหารจัดการเวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก ในชีวิตคนเรามีสิ่งที่ต้องการทำหลายต่อหลายอย่างในเวลา 1 วัน ซึ่งมี 24 ชั่วโมง เราต้องจัดลำดับความสำคัญในสิ่งที่จะทำให้ดี ผมแบ่งเวลาออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน ส่วนแรกคือการเรียนทั้งหมด ส่วนที่สองเป็นส่วนของการทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยเน้นกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น งานอาสาสมัคร และส่วนสุดท้ายเป็นเวลาส่วนตัวซึ่งมักจะทุ่มเทให้กับการออกกำลังกายเพื่อฟิตหุ่น ทั้งสามส่วนนี้แม้จะมีจำนวนชั่วโมงที่แตกต่างกันไป แต่ทั้งหมดเป็นวิถีชีวิตจริงของผมที่ดำเนินอยู่ในช่วงนี้"
แม้หลายกิจกรรมจะทำให้เราเหนื่อยกว่าการใช้ชีวิตโดยปกติ เราต้องปรับมุมมองชีวิตใหม่ เหนื่อยแต่แลกกับประสบการณ์ชีวิต แลกกับการได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ หรือแลกกับการทำประโยชน์แก่สังคม ผมถือว่ามันคุ้มค่ามากในฐานะบุคคลหนึ่งที่อยู่ในสังคม การได้ช่วยเหลือกันและกันเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการอยู่ร่วมกัน รวมถึงทำให้เรามีเพื่อนเพิ่มขึ้นจากเครือข่ายสังคมที่เราทำกิจกรรมร่วมกัน เหนือสิ่งอื่นใดการทำกิจกรรมอาสายังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ประกอบวิชาชีพครู
นอกจากนั้น ระหว่างศึกษาที่ มทร.ธัญบุรี ปาล์มยังทำอีกหลายกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัย เช่น การช่วยงานคณะศิลปกรรมศาสตร์ งานที่กองพัฒนานักศึกษา งานประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย ขณะเดียวกันปาล์มยังมีส่วนร่วมในเครือข่ายศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ปทุมธานี (0042) ด้วย
ปาล์มตั้งเป้าหมายชีวิตไว้ว่าหลังจากสำเร็จการศึกษา ตั้งใจเป็นครูสอนดนตรี รวมถึงทำกิจกรรมอาสาสมัครต่อไป ขณะนี้ปาล์มกำลังฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู โดยสอนวิชาดนตรีสากลให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนสายปัญญารังสิต จ.ปทุมธานี เพื่อเตรียมความพร้อมมุ่งสู่โลกการทำงานจริง และเชื่อว่าหลากหลายกิจกรรมอาสาที่ทำมาทั้งหมดจะทำให้ประสบความสำเร็จในอาชีพครู เพราะการเป็นครูต้องมีจิตใจอาสา และฝากแง่คิดไปถึงผู้คนในสังคมไทยว่า
"อยากให้คนไทยมีสติและมีความใจเย็น เนื่องจากผู้คนสมัยนี้ส่วนใหญ่ใจร้อน อะไรไม่พอใจก็ด่ากราด บางทีถึงขั้นลงไม้ลงมือ นำมาด้วยเหตุทะเลาะเบาะแว้ง หรือแม้แต่การขับรถ ก็อยากให้ทุกคนมีสติ อยากให้จำนวนยอดอุบัติเหตุบนท้องถนนลดลง เพราะจากการลงพื้นที่สัมผัสหน้างาน สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่มาจากความประมาทและเมาแล้วขับ"
ทั้งหมดนี้คือ ชีวิตของปาล์ม "หนุ่มหัวใจนักกิจกรรม" และด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ ล่าสุดปาล์มคว้ารางวัล "ผลงานระดับดีมาก" จากการประกวดผลงานสิ่งประดิษฐ์ระดับอุดมศึกษา RMUTT Young Talent Innovators 2016 ในผลงาน "การสร้างสรรค์บทประพันธ์เพลงเพื่อเชิดชูเกียรติบุคคลที่มีจิตอาสาให้กับสังคม" จึงทำให้ภาพความเป็นจิตอาสาของหนุ่มคนนี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ถือเป็นตัวอย่างที่ดีแก่วัยรุ่นในสังคมสมัยใหม่ยุคนี้